(* กดเพื่อเปลี่ยนสีพื้นหลัง)

เรื่อง : ทดลองอ่าน ความปรารถนาไร้เดียงสาของโอเมก้า Low Class เล่ม 1

Wednesday

ตอนที่ 4

หรงเชว่เดินออกจากแผนก พลางคิดคำนวณเงินทำโอทีห้าชั่วโมงว่าจะได้เงินเป็นจำนวนเท่าไร บริษัทเตรียมอาหารมื้อดึกเอาไว้ในห้องกาแฟที่ชั้นหนึ่ง เพื่อให้พนักงานที่ทำโอทีมาหยิบไปกิน หรงเชว่เดินไปเข้าห้องดังกล่าวอย่างคล่องทาง ตรงไปหยิบอาหารมื้อดึกอย่างที่เคยทำเป็นประจำ เมื่อเห็นแซนด์วิชสองชิ้นในกล่องอาหารมีหน้าตาน่ากินมาก เขาคิดจะเก็บไปกินเป็นอาหารเช้ากับเหยียนซี

ในระหว่างที่เขาดีใจที่สามารถประหยัดเงินค่ามื้อเช้าอย่างมีความสุขได้นั้น พลันรู้สึกได้ถึงความกดดันที่โจมตีจากทางด้านหลังโดยไม่รู้สาเหตุ หรงเชว่เหลียวหลังมอง จึงได้เห็นร่างสูงใหญ่ของโม่ฉือที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องราวกับเป็นเทพเฝ้าประตูเลยทีเดียว

หรงเชว่ขนลุกเกรียว มือสั่น กล่องอาหารในมือร่วงลงพื้น

พอได้สติก็ลนลานรีบหนีทันที แต่ยังไม่ทันจะยกเท้าเลยด้วยซ้ำ ดูเหมือนโม่ฉือจะรู้ทันว่าเขาคิดทำอะไร ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มหรี่ลงในทันใด หรงเชว่รู้สึกได้ถึงกลิ่นฟีโรโมนอันคุกรุ่นที่จู่โจมเข้ามา

ภายใต้ฟีโรโมนมหาศาลที่คุกคาม ทำให้สองขาของหรงเชว่อ่อนแรงถึงกับทรุดตัวลงกับพื้น ทำเพียงจ้องมองชายที่เดินเข้ามาใกล้ราวกับเป็นราชันย์

ในโลกใบนี้อัลฟ่าถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาเก่งกล้าและแข็งแรง จึงหวงแหนสายเลือดที่บริสุทธิ์และให้ความสำคัญกับการสืบทอดทายาทเป็นอย่างมาก อัลฟ่าที่มีฐานะสูงส่ง มักจะแต่งงานกับอัลฟ่าด้วยกันเอง ด้วยเหตุดังกล่าวปัจจุบันนี้อัลฟ่าจึงค่อยๆ ผูกขาดด้านอิทธิพลอำนาจและตำแหน่งสูงส่ง โดยอัลฟ่าที่มีฐานะยิ่งใหญ่ต่างสืบทอดทายาทจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขามักจะเก่งฉกาจยิ่งกว่ารุ่นก่อนๆ อีกด้วย ซึ่งโม่ฉือถือเป็นตัวอย่างที่ดีต่อคำอธิบายดังกล่าว

เขาเป็นถึงอัลฟ่าระดับซูเปอร์ไฮคลาสที่มีอำนาจมาก ไม่เพียงแต่จะมีครอบครัวที่ยิ่งใหญ่มีอิทธิพล แต่ตัวเขายังสูงส่งอีกต่างหาก กระทั่งความหล่อยังกินขาดชนิดที่ไม่ใช่หล่อธรรมดา แต่เป็นประเภทเห็นครั้งแรกก็ตะลึง เครื่องหน้าได้รูป หน้าตาเลิศเลอ ดวงตาคมลุ่มลึก รูปร่างสูงใหญ่ สีหน้าไร้อารมณ์ก็จริง แต่เปี่ยมด้วยบารมีของผู้ยิ่งใหญ่ ชายหนุ่มยืนอยู่อย่างนั้นราวกับเป็นหุ่นสลักสมัยกรีกที่แสนประณีต

แต่หรงเชว่ในเวลานี้ไม่มีอารมณ์จะชื่นชมความหล่อเหลาของผู้ชายตรงหน้า เขารับรู้ได้แต่บารมีอันน่ากลัวที่ส่งมาข่มขู่

“สงสัยว่าเรื่องครั้งที่แล้วไม่ได้ทำให้นายฉลาดขึ้นเลย...”

โม่ฉือจ้องมองชายที่ตัวสั่นระริกอยู่กับพื้นด้วยสายตาเย็นชา ตอนแรกเขาเข้าใจว่าตัวเองตาพร่าไป เพราะไม่คิดว่าเจ้าโอเมก้าคนนี้ยังจะกล้ามาล่อลวงเขาอีก แต่ความจริงที่ได้เห็นกลับกลายเป็นว่า เจ้าโอเมก้าที่โดนเขาปล้ำเสียยับเยินแล้วกระโดดหน้าต่างหนีไปเมื่อครั้งที่แล้ว มาปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้

“ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ฉันคงใจดีเกินไป ทำให้นายยังกล้ามาอยู่ตรงหน้าฉัน...”

หรงเชว่ตัวสั่นสะท้านจากคำพูดอันน่าหวาดผวาของโม่ฉือ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเข้าใจผิด คิดว่าหรงเชว่มาอยู่ที่นี่ด้วยมีแผนร้าย

กลิ่นฟีโรโมนที่รุนแรงนั้นยังคงข่มหรงเชว่ให้ลุกไม่ขึ้น เขาหายใจไม่ออกจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ แต่เพราะไม่อยากตายอยู่ที่นี่หรงเชว่จึงพยายามยื่นมือจับป้ายพนักงานซึ่งสวมไว้ที่คอ ก่อนจะชูขึ้นสูงด้วยมือที่สั่นเทา

โม่ฉือหาวิธีตายให้เจ้าหมาน้อยที่ยังกล้ามาจ้องจับเขาเป็นเป้าหมายครั้งแล้วครั้งเล่าได้แล้ว แต่พอเห็นป้ายพนักงานนั่น ก็รู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง

ไม่คิดว่าเจ้าหมาน้อยที่มุ่งหมายในสเปิร์มของเขาจะทำงานอยู่ใต้จมูกเขานี่เอง

หรงเชว่รู้สึกได้ว่าโม่ฉือดึงฟีโรโมนที่ข่มขู่เขากลับไปแล้วร่างกายจึงสบายขึ้นมาบ้าง เขาหอบหายใจอยู่นานกว่าจะเป็นปกติ หรงเชว่ยันมือกับโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างพยุงตัวให้ยืนขึ้นด้วยสองขาที่สั่นเทา ดวงตาดำขลับมองดูอัลฟ่าที่แข็งแกร่งตรงหน้า “ประ...ประธานโม่...เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผมเอง จู่ๆ ผมก็บ้า...ถึงได้ทำความผิดแบบนั้นลงไป...”

ด้วยเหตุที่ตึงเครียด แถมลำคอยังแห้งผาก หรงเชว่จึงแหงนหน้ากลืนน้ำลายโดยอัตโนมัติ กล่าวต่อ “แต่ แต่วันนี้...ผม...ผมแค่บังเอิญทำโอที...จริงๆ นะครับ ไม่ได้คิดจะทำอย่างอื่น”

โม่ฉือจับบัตรพนักงานที่แขวนคอของหรงเชว่ ช้อนสายตามองดู “นายเป็นพนักงานแอดมินของแผนกวางแผนการผลิต?”

หรงเชว่พยักหน้าอย่างระมัดระวัง ภายในใจรู้สึกหนาวจับจิตจับใจ เขาอยากจะร้องไห้แต่มันไม่มีน้ำตา เรียกได้ว่ากลัวอะไรก็ได้อย่างนั้นจริงๆ สินะ

ตอนนี้บทสรุปที่ดีที่สุดคือม้วนเสื่อกลับบ้านไป ดีไม่ดีเขาอาจถูกโม่ฉือจับตัวส่งไปอยู่ในคุกที่ขังนักโทษฉกรรจ์อัลฟ่าก็เป็นได้ คิดได้อย่างนี้แล้ว หรงเชว่พลันยิ่งหวาดกลัวถึงกับขอบตาแดง

โม่ฉือมองดูผู้ชายที่ตกใจจนน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อแล้วก็หัวเราะเสียงเย็น เพียงเขากระชากบัตรพนักงานนั่น หรงเชว่ก็เซถลามาอยู่ตรงหน้าแล้ว “มิน่าละ นายถึงกล้าทำแบบนั้น เพราะวางแผนมานานแล้วนี่เอง”

“เปล่า ไม่ใช่นะครับ...” หรงเชว่สั่นศีรษะเป็นพัลวัน การเข้าใกล้โม่ฉือเช่นนี้ทำให้ฟีโรโมนของอีกฝ่ายทะลักเข้าจมูก ความกดดันที่แฝงอยู่ในฟีโรโมนเมื่อครู่นี้ได้สลายไป กลิ่นหอมฉุนของไม้จันทน์แฝงมาด้วยกลิ่นบุหรี่แสบร้อนรุนแรงกระจายอยู่ในโพรงจมูกของเขา

 หัวใจของหรงเชว่เต้นผิดจังหวะทันที ความวาบหวามประหลาดแผ่ซ่านทั่วกาย ขนลุกเกรียว ด้วยสัญชาตญาณของโอเมก้าทำให้เขาปิดจมูกพลางผลักไสผู้ชายตรงหน้า เขาเอ่ยเสียงเบาในขณะที่หายใจลำบาก “กลิ่นนี่...ไม่ไหว...”

แม้จะเป็นโอเมก้าแต่ด้วยความอ่อนแอที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้รอบการเกิดฮีตของหรงเชว่ไม่ตรงเวลา แถมกลิ่นฟีโรโมนของเขายังเจือจางมากอีกต่างหาก อีกทั้งยังรับรู้กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าช้า ปกติแล้วหรงเชว่จะไม่ค่อยได้กลิ่นฟีโรโมนของพวกอัลฟ่าสักเท่าไร ในทางกลับกันอัลฟ่าเองก็ไม่ค่อยมีปฏิกิริยากับกลิ่นฟีโรโมนของหรงเชว่ หรงเชว่จึงมีสภาพไม่ต่างอะไรกับเบต้า ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับฟีโรโมนทุกวันเหมือนกับโอเมก้าทั่วไป เพียงแต่โม่ฉือไม่ใช่อัลฟ่าธรรรมดา กลิ่นฟีโรโมนของโม่ฉือฉุนมาก และมันทำให้หรงเชว่ที่รับรู้กลิ่นได้ยากกลับสามารถได้กลิ่นฟีโรโมนของโม่ฉืออย่างชัดเจน ร่างกายที่รับรู้ได้เชื่องช้าของเขาจึงเกิดอาการขึ้นทันทีที่ได้กลิ่นนั่น

โม่ฉือมองดูโอเมก้าที่ได้กลิ่นฟีโรโมนของเขาแล้วหน้าแดงขึ้นมา เหมือนว่าหัวใจของอีกฝ่ายจะเต้นแรงขึ้นจนถึงกับหายใจหอบกระชั้น เวลานี้ยังมีกลิ่นบ๊วยอ่อนๆ โชยออกมาอีกด้วย โม่ฉือขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายไม่ได้กินยาระงับฟีโรโมน?”

“ขอโทษ...” หรงเชว่จับโต๊ะด้านข้างพยุงตัวไว้ไม่ให้ล้มลงไป พยายามทำเสียงของตัวเองให้ปกติมากที่สุด ทว่าต้นคอของเขาเริ่มปวดหนึบขึ้นมาแล้ว “ผมเป็นโอเมก้าโลว์คลาส ปกติแล้ว...แทบจะไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าเลย การเกิดฮีตแต่ละรอบก็ห่างกันมาก...”

โอเมก้าทั่วไปจะเกิดฮีตเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฮีตบ่อยเช่นนี้ พวกเขาจึงต้องกินยาระงับฟีโรโมนทุกวัน เพียงแต่หรงเชว่เป็นโอเมก้าโลว์คลาส หลังจากที่ผ่านพ้นวัยเจริญพันธุ์มาตั้งหลายปี เขาเพิ่งจะเกิดฮีตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ตอนที่หรงเชว่มีเซ็กซ์กับโม่ฉือ แม้เขาจะกินยาระงับแล้วแต่เพราะฟีโรโมนของโม่ฉือที่เกิดขึ้นระหว่างติดฮีตเข้มข้นมาก จึงทำให้เขาเกิดฮีตด้วย หากดูจากระยะเวลาก็ผ่านมาไม่ถึงสองเดือน คาดคะเนจากสภาพร่างกายแล้วอีกนานกว่าเขาจะติดฮีตอีกครั้ง ฉะนั้นเขาจึงละเลยไม่ได้กินยาทุกวันเพื่อจะได้ประหยัดเงินค่ายา

ทว่าถึงจะทั้งปิดปากทั้งอุดจมูกแน่น แต่กลิ่นฟีโรโมนของโม่ฉือยังคงแทรกซึมเข้าไปในทุกโสตประสาทของหรงเชว่ มันทำให้สองขาของเขาอ่อนแรง หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาอาจจะเกิดฮีตขึ้นมาอีกครั้งแน่ๆ

หรงเชว่ลนลานคลำไปทั่วกระเป๋ากางเกง ถึงรู้ว่าไม่ได้พกยาระงับติดตัวมาด้วยจึงเอ่ยขอร้อง “คุณช่วยเก็บฟีโรโมนของคุณหน่อยได้ไหม ทำแบบนี้...ผม...ผมอาจ...อาจจะ...” น้ำเสียงหรงเชว่ตะกุกตะกัก ทว่ากลิ่นฟีโรโมนของโม่ฉือกลับทวีความรุนแรงขึ้น เขาขนลุก เข่าอ่อนยวบทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้น

หรงเชว่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆ โม่ฉือถึงได้ปล่อยฟีโรโมนออกมามากขึ้น หรงเชว่แววตาเลื่อนลอยพยายามเงยหน้ามองอีกฝ่าย โม่ฉือก้มมองชายที่อ่อนระทวยจากฟีโรโมนของเขา ดวงตาที่สบตาเขาอยู่มีหยาดน้ำคลอ ผิวขาวนวลที่ปรากฏนอกเสื้อสูทราคาถูกตัวใหญ่โคร่งเริ่มแดง กลิ่นบ๊วยอ่อนๆ ชัดเจนขึ้น ดวงตาคู่สวยที่แสนอันตรายของโม่ฉือหรี่ลง

“ความเลวร้ายที่นายทำไปก่อนหน้านี้จะยังไม่พูดถึงก่อน แต่ในเมื่อนายเป็นพนักงานของโม่กรุ๊ป ก็ควรจะรู้ว่าการกินยาระงับฟีโรโมนทุกวันถือเป็นสิ่งที่โอเมก้าต้องทำ แต่นายกลับละเลยระเบียบสำคัญในเวลาทำงาน...”

หรงเชว่ถูกฟีโรโมนเข้มข้นห้อมล้อม เขาเริ่มเวียนศีรษะ รู้สึกร่างกายเหมือนจะหลอมละลาย ความร้อนอันน่าประหลาดแผ่ออกจากต่อมต้นคอ ไหลเวียนไปตามเส้นเลือดทั่วร่างตามเ จากนั้นสายเลือดก็ไหลย้อนกลับ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยไม่อาจยับยั้งลุกโหม

หรงเชว่ใช้มือที่สั่นเทาหยิกต้นขาตัวเอง ความเจ็บทำให้น้ำตาไหลออกมา สติกลับคืนมาเล็กน้อย เขาพยายามกดเก็บความรู้สึกว้าวุ่นในหัวใจ เอ่ยเสียงแหบเบา “ขอโทษด้วย...ลิ้นชักผมมียาระงับฟีโรโมน...ผม ผมจะไปใช้เดี๋ยวนี้...”

หรงเชว่นึกขึ้นได้ แต่เพราะถูกฟีโรโมนของอัลฟ่าครอบงำ ความรู้สึกหวิวไหวทะลักเข้าร่างไม่หยุด ไร้เรี่ยวแรง รู้สึกว่าโม่ฉือไม่คิดจะเก็บฟีโรโมนที่ปล่อยออกมาเลยแม้แต่น้อย หรงเชว่ได้แต่อ้าปากตัวสั่น “ยาระงับราคาแพง...ช่วงนี้ผมต้องเก็บเงิน...แต่ผมสัญญาว่าต่อไปจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว จะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว...”

“โปรดเก็บฟีโรโมนของคุณ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป ผมคง ผมคงทนไม่ไหว อา...ขอร้องละ...ยาระงับ...”

สติของหรงเชว่ถูกฟีโรโมนของโม่ฉือควบคุม กระทั่งพูดไม่ชัดไปแล้ว

โม่ฉือยืนมองโอเมก้าที่หอบหายใจถี่กระชั้น ไม่หวั่นไหวสักนิด คิดเพียงว่าข้ออ้างที่อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นมันช่างน่าตลก โม่กรุ๊ปของเขาถือเป็นบริษัทอันดับต้นๆ เลยทีเดียว แม้เงินเดือนที่ให้พนักงานจะไม่ถือว่ามากที่สุด แต่เงินเดือนขั้นพื้นฐานรวมถึงสวัสดิการต่างๆ ล้วนสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในตำแหน่งเดียวกัน ยาระงับฟีโรโมนแบบธรรมดามีราคาไม่ต่างจากยาแก้หวัดเท่าไร เจ้าโอเมก้าคนนี้มันใช้เหตุผลบ้าบออะไรกันเนี่ย?

แถมยังเสแสร้งมาบอกว่าจะใช้ยาระงับฟีโรโมน? เจ้าหมาน้อยนิสัยเจ้าเล่ห์แบบนี้ ดีไม่ดีในลิ้นชักนั่นคงไม่มียาที่ว่านี่หรอก อาจจะเตรียมยายั่วยวนอัลฟ่าเอาไว้ตั้งนานแล้ว

ช่วงนี้โม่ฉือค่อนข้างยุ่ง วันนี้ต้องประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ทั้งวันจนถึงค่ำ การทำงานเป็นเวลานานทำให้ฟีโรโมนของเขาสะสมอยู่มาก เดิมคิดจะกลับไปหาคนรู้ใจเพื่อระบายสักคน แต่พอลงลิฟต์มาเขากลับได้กลิ่นบ๊วยที่แสนเคยคุ้น

เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเป็นกลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้า กลิ่นที่ว่านี้ไม่ยั่วเย้าเข้มข้นเหมือนพวกโอเมก้าไฮคลาส แต่กลิ่นหวานของบ๊วยนั่นดมได้ไม่ยาก เมื่อได้กลิ่นแล้วจะให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก

น่าสงสัยเหลือเกินว่าโอเมก้าแบบไหนที่มีกลิ่นฟีโรโมนพิเศษแบบนี้ เขาจึงเดินตามกลิ่นที่ผลุบๆ โผล่ๆ นี้มา ไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าหมาน้อยที่เคยกระโดดหน้าต่างหนีเขา แถมเจ้าตัวยังไม่ได้ใช้ยาระงับฟีโรโมนอีกด้วย ดูท่าทางแล้วหากโดนฟีโรโมนเขาเล้าโลมต่อไปคงจะต้องเกิดฮีตแน่นอน

โม่ฉือไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ จะต้องเป็นแผนลึกล้ำของเจ้าหมาน้อยที่คิดจะอ่อยเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน

พอมองดูโอเมก้าที่อ่อนระทวยอยู่บนพื้นแล้ว ชายหนุ่มเอ่ยเสียงขรึมว่า “ไม่คิดว่าภายนอกนายจะดูขี้ขลาด แต่กลับมีนิสัยไม่กลัวตายแบบนี้”

“...อะ อะไรนะ?” คงเพราะหรงเชว่สมองสับสนจากฟีโรโมนของชายหนุ่มตรงหน้า เขาตอบกลับอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย

ต่อมต้นคออันอ่อนแอที่ติดตัวมาแต่กำเนิดปล่อยความร้อนออกมาไม่หยุด กลิ่นฟีโรโมนทะลักเข้ามาในจมูกเป็นระยะๆ นั่น ทุกครั้งที่สูดเข้าไปก็จะรู้สึกได้ว่าเลือดลมพลุ่งพล่าน สติเริ่มเลือนราง เหลือเพียงสัญญาตญาณทางกาย

โม่ฉือเห็นสีหน้าไร้เดียงสาปนสับสนนั่นแล้ว คิดว่าเจ้าตัวจะต้องเสแสร้งออกมาแน่นอนจึงแค่นเสียงเย็น “อย่ามาเล่นละครต่อหน้าฉัน ฉันคงใจอ่อนเกินไปจริงๆ น่ะแหละที่ไม่เอาเรื่องนายเมื่อครั้งที่แล้ว ทำให้นายยังมีความกล้าแบบนี้ ได้คืบยังจะเอาศอก ถึงกับกล้าแอบมายั่วยวนฉันอย่างโจ่งแจ้งถึงในบริษัท เห็นทีนายคงอยากไปอยู่ในคุกที่ขังนักโทษอัลฟ่าคดีอุกฉรรจ์ในชาติหน้าแล้วละ”

คิดแล้วก็ตลกดี โอเมก้าโลว์คลาสคนหนึ่งกลับกล้าวางแผนล่องลวงเขา ทั้งๆ ที่อ่อนแอขนาดที่ไม่ต่างอะไรกับเบต้า กลิ่นฟีโรโมนก็ไม่ได้เย้ายวนใจอะไร หน้าตาพอจะเรียกได้ว่าใสสะอาด รูปร่างผอมแห้งไม่มีเนื้อหนังสักนิด แม้จะให้รสสัมผัสไม่เลว แต่ด้วยเหตุที่ผอมบางจึงสามารถอุ้มขึ้นมาแล้วใช้สารพัดท่วงท่าได้ตามใจชอบ...

โดยรวมแล้วไม่มีอะไรพิเศษจริงๆ เหมือนเครื่องเคียงที่วางประดับอาหารในงานเลี้ยง จะเรียกว่าถูกปากก็ยังไม่ได้...

อัลฟ่าระดับซูเปอร์ไฮคลาสจะมีความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งและความสามารถในการควบคุมตัวเองซึ่งติดตัวมาแต่กำเนิด ต่อให้อัลฟ่าระดับนี้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโอเมก้าก็ยังสามารถควบคุมฟีโรโมนของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเกลียดขี้หน้าเจ้าโอเมก้าคนนี้อีกด้วย ครั้งที่แล้วเจ้าหมาน้อยลอบโจมตีเขาได้สำเร็จ เพราะเขากำลังอยู่ในช่วงเกิดฮีตพอดี แต่พอลองชิมๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่าพอจะกระเดือกลงคอได้อยู่ เขาจึงยอมร่วมรักด้วย แต่ขอเพียงเขาไม่อยาก ต่อให้อัตราการเข้ากันมีถึงเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ก็ไม่มีวันทำให้เขาหวั่นไหวได้หรอก

โม่ฉือพลันได้กลิ่นบ๊วยที่เข้มข้นขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าหรงเชว่คลานมาอยู่ข้างเท้าตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ จากนั้นก็เข้ามากอดขาของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ภายใต้ฟีโรโมนของเขาแล้ว ราวกับว่ามึนเมากลิ่นไม้จันทน์อันเข้มข้น เมื่อช่วงเวลาการฮีตเริ่มต้นขึ้น ก็เหลือแต่สัญชาตญาณของร่างกายส่วนล่างเท่านั้นที่โหยหาความสุข

หรงเชว่กอดต้นขาของโม่ฉือเอาไว้ ดูตัวนุ่มนิ่ม กำลังซุกไซ้เหมือนแมวน้อยเลยทีเดียว

 โม่ฉือสะดุ้งทันที สีหน้าเครียดขรึมขึ้นมา ก้มหน้ามองดูชายที่อยู่ข้างเท้าตัวเองเว้าวอนขอความสุข “อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้ว ฉันจะติดกับดักของนายนะ”

กำลังจะยกมือผลักชายที่กอดขาตัวเอง จู่ๆ โอเมก้าที่กอดขาของเขาอยู่นี้กลับยื่นมือออกมาก่อน

มือของอีกฝ่ายลูบไล้ขึ้นมายังหว่างขาของเขาที่เริ่มจะมีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้างแล้ว หรงเชว่ลูบคลำอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นทันที ส่งยิ้มหยาดเยิ้มให้โม่ฉือ ผิวขาวนวลแดงขึ้นเนื่องมาจากติดฮีต ดวงตากลมโตหรี่ลงเล็กน้อย เจือหยาดน้ำ ความขลาดกลัวและหวาดหวั่นก่อนหน้านี้เลือนหาย แทนที่ด้วยความหลงใหลไร้สติ

โม่ฉือมองต่ำลง คอพลันแห้งผาก ลำคอเคลื่อนไหวทันที กลิ่นบ๊วยจางๆ ในโพรงจมูกเริ่มเย้ายวน และฟีโรโมนของเขาเข้าพันพัวกับกลิ่นอ่อนๆ นั่นโดยไม่รู้ตัว

โอเมก้าที่อยู่บนพื้นกำลังเข้าสู่ภาวะติดฮีต ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวอำนาจของอัลฟ่าระดับสูงอีกต่อไป เงยหน้ายิ้มอย่างหลงใหลให้เขาแล้วก้มลงแลบลิ้นเลียผ่านกางเกงด้วยแรงที่ไม่หนักหรือเบาเกินไป โม่ฉือสูดลมหายใจเข้าลึก จิกศีรษะอีกฝ่ายที่หาญกล้ามุดหว่างขาเขา

หรงเชว่ถูกกระชากเส้นผมจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ท่าทางเหมือนจะรับรู้ได้ถึงปฏิกิริยาของโม่ฉือ และรับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าตัวส่งยิ้มให้อย่างเปรมปรีดิ์ เห็นทีชายขี้อายชอบเก็บความรู้สึกในเวลาปกติ จะเปิดเผยความปรารถนาออกมาอย่างโจ่งแจ้งได้เหนือความคาดหมาย

ใบหน้าน้อยๆ นั่นซุกไซ้หว่างขาของโม่ฉืออย่างอดใจไม่อยู่ สีหน้าเหมือนเด็กน้อยที่ได้รับลูกอมของโปรด เอ่ยเสียงอ่อนนุ่มขึ้นจมูก “อยากกินจัง...”

“บ้าเอ๊ย!” เส้นเลือดที่ขมับของโม่ฉือปูดเลยทีเดียว ชายหนุ่มหลุดคำสบถออกมา

อะไรคือการควบคุมตัวเองที่น่าภาคภูมิใจ อะไรคือความอึดทนต่อฟีโรโมนของโอเมก้าได้ทุกคน เวลานี้เขาไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไปแล้ว โม่ฉือคิดถึงเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นว่า จะต้องเอาเจ้าหมาน้อยตรงหน้านี้ให้ตาย อยากได้สเปิร์มจากเขาไม่ใช่หรือ? งั้นเขาจะกรอกเข้าร่างให้กินไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว!

 

หนังสือแนะนำ All

Special Deal