(* กดเพื่อเปลี่ยนสีพื้นหลัง)

เรื่อง : ทดลองอ่าน อัจฉริยะครองโลก เล่ม 1

Thursday

บทที่ 3 จวงหลี่ผู้เดือดดาล

ในเวลานี้จวงหลี่ลืมตาขึ้นทันใด เท้าถีบโต๊ะน้ำชาข้างๆ จนพลิกกระเด็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว หลังจากนั้นก็ชี้คำด่าทอเต็มจอภาพ ตวาดเสียงย้อนถาม “ไอ้กระจอกอกตัญญู พวกคุณด่าใครกันแน่”

นัยน์ตาสีดำขลับของเขามีเปลวไฟสองลูกลุกโชน แก้มขาวซีดถูกฉาบด้วยสีแดงเพราะความโกรธ

“เบิ่งตาดูให้ดีเถอะว่าคนที่พวกคุณตราหน้าว่าอกตัญญูปกป้องโลกใบนี้ยังไง!”

จวงหลี่กดปุ่มหนึ่งบนแผงควบคุม แสงจากเครื่องฉายภาพเหล่านั้นพุ่งเข้ามารวมกันกลายเป็นภาพโฮโลแกรมอีกภาพหนึ่ง

นั่นคือโลก

พูดให้ถูกก็คือประเทศจีน ประเทศจีนที่เคยอยู่บนโลกใบนั้น

ควันรูปดอกเห็ดจากระเบิดนิวเคลียร์หลายลูกพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำลายล้างแผ่นดินที่เคยงดงาม น่าพิศวงและกว้างใหญ่จนหมดสิ้น หลังจากควันระเบิดจางลง ภาพเหตุการณ์หลายฉากก็ปรากฏขึ้นบนจอโฮโลแกรม นั่นเป็นภาพสุดท้ายที่กองทัพชนชาติจีนทิ้งเอาไว้

ใต้ฝ่ามือของพวกเขาคือปุ่มสีแดง ปุ่มเหล่านั้นเชื่อมต่อไปยังเครื่องจุดระเบิดนิวเคลียร์หรือไม่ก็ระเบิดไฮโดรเจน

ทหารเหล่านี้ล้วนมียศสูง ไม่มีคนไหนยศต่ำกว่าระดับนายพล บุรุษแข็งแกร่งที่กล้าหาญชาญชัยเหล่านี้ต่างกำลังหลั่งน้ำตา

“ในวันที่ XX เดือน XX ปี XX เวลา 9 นาฬิกา 5 นาที 24 วินาที ผมหลี่เหว่ย ในนามกองทัพชนชาติจีนเขตตะวันออกออกคำสั่ง 0001 ขอให้การอุทิศของพวกเรานำความยั่งยืนสู่มนุษยชาติ!”

ทหารคนหนึ่งพูดจนจบประโยคด้วยเสียงสะอื้น แล้วก็กดปุ่มจุดระเบิดอย่างแน่วแน่ แล้วจอภาพของเขาก็ดับลง

สิบวินาทีต่อมา ทหารอีกนายหนึ่งก็ตะโกนสุดเสียง “ในวันที่ XX เดือน XX ปี XX เวลา 9 นาฬิกา 5 นาที 34 วินาที ผมจางย่าตง ในนามกองทัพชนชาติจีนเขตตะวันตกออกคำสั่ง 0001 ขอให้การอุทิศของพวกเรานำความยั่งยืนสู่มนุษยชาติ!”

เขากดปุ่มระเบิดอย่างไม่ลังเลเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็หายไปในความมืดตลอดกาล

อีกสิบวินาทีต่อมา เขตใต้ เขตเหนือ และเขตอื่นๆ ทั่วประเทศก็ถูกทำลายด้วยระเบิดนิวเคลียร์เช่นเดียวกัน

พวกเขาอุทิศตนเพื่อแลกกับความอยู่รอดของมนุษยชาติ จึงไม่มีความหวาดกลัวใดๆ หนำซ้ำยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แบกภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ไว้บนบ่าของตนเอง

พอเห็นใบหน้ามุ่งมั่นยืนหยัดเหล่านั้นหายไปจากจอภาพทีละคนๆ ผู้ชมที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ก่นด่าไม่หยุดก็พูดไม่ออกสักคำ

บางทีคนในวงการทหารอาจเคยเห็นภาพเหล่านี้มาก่อนแล้ว แต่ประชาชนทั่วไปเพิ่งเคยเห็นภาพที่โหดร้ายแต่ก็เข้มแข็งและงดงามเหล่านี้เป็นครั้งแรก

ถึงตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้ว่า การอยู่รอดของตนเองนั้นเป็นเพราะกลุ่มคนที่เสียสละเพื่อ “ความยั่งยืนของมนุษยชาติ” ภาพไดสันสเฟียร์แตกสลายก็ยังกลบความสะเทือนใจจากภาพเหล่านี้ไม่ได้

เมื่อประเทศจีนล่มสลาย ยานขนาดมหึมาก็พาผู้หญิงและเด็กอพยพจากควันหนาคลุ้งจากระเบิด

เอเลี่ยนบ้าคลั่งฝูงหนึ่งไล่ล่ายานลำนั้น และดึงพวกเขากลับสู่นรกแห่งเปลวควันและกองเพลิง

จนกระทั่งยานลำนั้นระเบิดกลางอากาศและตกจากฟ้า กองทัพสหพันธรัฐถึงตอบกลับ “แสดงความเคารพต่อวีรบุรุษผู้เสียสละ! การอุทิศตนของพวกท่านนั้นมีความหมายอย่างใหญ่หลวง!”

ในภาพโฮโลแกรม ยานลำเลียงผู้อพยพชาวจีนซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายทำได้แค่ปล่อยแคปซูลฉุกเฉินเพียงหนึ่งหลังเท่านั้น แล้วก็จมหายไปในควันสีดำรูปดอกเห็ด

ในบริเวณใกล้เคียง ยานของสหพันธรัฐบินจากไปทีละลำๆ

ยานเหล่านั้นบินไปยังบ้านหลังใหม่ของมวลมนุษย์ และนั่นคือความหวังของมนุษยชาติ

พอวิดีโอภาพโฮโลแกรมฉายมาถึงตรงนี้ก็หยุดกะทันหัน จวงหลี่ที่ตอนแรกมีแต่อารมณ์เรียบเฉยบนใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นคนละคน เวลานี้ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เห็นแล้วใช่ไหม พวกคุณรอดมาได้ก็เพราะแบบนี้ไงล่ะ” เขาพยายามกดความสะเทือนใจเอาไว้

“ชีวิตของพวกคุณแลกมาด้วยชีวิตของชนชาติของผม!” เขาไม่อาจเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ด้วยท่าทีปกติได้ จึงหลับตาทั้งสองข้าง

ความโกรธแค้นเต็มอกทำให้เขากัดฟันแน่น ไม่เอ่ยปากพูดอะไรสักคำ ที่หางตามีคราบน้ำตาซึมออกมา

ระหว่างที่เขาเงียบไป ช่องถ่ายทอดสดที่เคยโหวกเหวกก็เงียบงันผิดปกติ พวกที่ร้องแรกแหกกระเชอให้จับจวงหลี่ไปรับโทษเหล่านั้นพูดไม่ออกสักคำราวกับถูกปีศาจตัดลิ้น

นายพลฟอร์ดใช้มือสองข้างปิดหน้าเพราะแทบทนดูภาพเหล่านั้นไม่ไหว เขารู้ว่าที่จริงแล้วชาวจีนต่างหากคือวีรบุรุษผู้กอบกู้โลกตัวจริง ชนชาติจีนยอมเสียสละเพื่อแลกกับการอยู่รอดของมนุษยชาติ

บุญคุณนี้หนักหนาเหลือเกิน พวกเขาจึงทำได้แค่แสร้งหลงลืมไป เพื่อให้จิตใจสงบลงเท่านั้น

มันเป็นการกระทำที่ไร้ยางอาย แต่ก็ได้ผลดีมาก ทำให้ผู้เสียสละค่อยๆ ถูกหลงลืมไป

นายพลฟอร์ดหลั่งน้ำตาชุ่มฝ่ามือ แล้วเขาก็พยายามดึงสติกลับมา สั่งให้คนไปตรวจสอบสถานการณ์ของไดสันสเฟียร์ เขาไม่เชื่อว่าภาพโฮโลแกรมเหล่านั้นเป็นของจริง

ผู้ชมในช่องถ่ายทอดสดก็ไม่เชื่อ พวกเขาคิดว่านั่นเป็นแค่ภาพอนิเมชันที่จวงหลี่เอามายั่วยุพวกเขาเท่านั้น

น้ำตาของจวงหลี่แห้งเหือด เขาลืมตาขึ้น จ้องมองกล้องที่แขวนอยู่บนเพดานทรงโดม แล้วส่งเสียงพูดอย่างแข็งกร้าว

“ปวงกาเร จอห์น คุณคงรู้ใช่ไหมว่านี่คืออะไร”

เขาค่อยๆ ชูสมุดบันทึกเล่มหนึ่งขึ้นมา ปกหนังสีดำพิมพ์ภาพธงชาติสีแดงเอาไว้ มุมซ้ายล่างเขียนชื่อภาษาจีนด้วยหมึกสีทอง - จวงหลี่

นี่เป็นแค่สมุดบันทึกธรรมดาๆ เล่มหนึ่ง ทุกคนต่างก็คิดเช่นนี้

แต่ดร.จอห์นที่เอาแต่นั่งนิ่งกลับลุกพรวดพุ่งไปหาจอภาพโฮโลแกรม คิดจะแย่งสมุดโน้ตเล่มนั้นมา แต่เสียดายที่เด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงภาพมายาที่เกิดจากการรวมตัวของจุดสีเท่านั้น แค่สัมผัสเบาๆ ภาพก็พร่ามัว

มือของดร.จอห์นพุ่งทะลุสมุดบันทึก แต่ก็คว้าได้แค่อากาศ

นายพลฟอร์ดมองสหายเก่าแก่อย่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงควบคุมอารมณ์ไม่ได้

จวงหลี่แสยะยิ้มเล็กๆ ราวกับเห็นท่าทางของดร.จอห์น

“อยากได้ไหม”

น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเหมือนกับปีศาจกำลังล่อลวง

ดร.จอห์นกัดฟันกรอด จ้องมองภาพโฮโลแกรมของเด็กหนุ่มชาวตะวันออก ปลายนิ้วแอบกดปุ่มโปรแกรมอัจฉริยะบนข้อมือเพื่อสั่งการ

ในเวลาเดียวกัน ตากล้องที่ยืนอยู่ด้านหลังของผู้สื่อข่าวสาวก็ควักปืนบลาสเตอร์ออกมายิงจวงหลี่ แต่น่าเสียดายที่กระสุนกลับถูกม่านพลังงานกั้นขวางทุกนัด แตะต้องจวงหลี่ไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผม

แต่ตากล้องก็ยังไม่หยุดมือ เขาควักปืนอีกกระบอกหนึ่งออกมายิงไปทั่วไม่หยุดหย่อน คิดจะทำลายม่านพลังงานนี้ให้แตกในเวลาอันสั้น

กล้องสี่ตัวที่ลอยอยู่กลางอากาศกลายเป็นระเบิดย่อส่วนสี่ลูกทันใด แล้วก็พุ่งเป้าโจมตีจวงหลี่

กระสุนและระเบิดทำให้ผู้ชมในช่องถ่ายทอดสดตกตะลึง

ถึงไม่มีกล้องจิ๋วและตากล้องคอยบันทึกเหตุการณ์ กล้องวงจรปิดที่จวงหลี่ติดตั้งในห้องแล็บก็รับหน้าที่ถ่ายทอดสดแทน ดังนั้นทุกเหตุการณ์ในห้องนี้จึงปรากฏสู่สายตาทุกคนต่อไป

พอเห็นศัตรูเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา จวงหลี่ก็หัวเราะอย่างสะใจ

ในเวลานี้ผู้ชมเพิ่งรับรู้ว่าเด็กหนุ่มชาวตะวันออกคนนี้ไม่ใช่คนเงียบขรึมมืดมน ตรงกันข้าม เขาสุกสว่างราวกับเปลวเพลิง แถมยังเป็นเปลวเพลิงที่มาพร้อมกับกลิ่นควันอีกด้วย

เขาฉีกหน้าปากสมุดโน้ตที่มีธงชาติสีแดงออกมา แล้วก็วางแนบไว้บนหน้าอกพร้อมกับลูบมันอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเขาก็โยนสมุดโน้ตไปยังม่านพลังงาน

เหมือนว่าม่านพลังงานจะติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยเอาไว้ ตอนที่สมุดโน้ตสีดำสัมผัสกับม่านพลังงาน ก็เกิดไฟลุกทันที

กระดาษถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว แค่เกิดเสียง ‘บึ้ม’ สั้นๆ บนพื้นก็มีแต่เถ้าถ่านสีดำเท่านั้น

“ไม่!”

ดร.จอห์นตะโกนสุดเสียง เขาควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

“รีบจับตัวเขา เร็วเข้า!”

ชิปอัจฉริยะในหูของตากล้องได้รับคำสั่ง จึงเพิ่มกำลังโจมตีทันที

แต่ม่านพลังงานนั้นก็ยังไม่แตกร้าวแม้แต่น้อย

จวงหลี่จ้องมองกระสุนเหล่านั้นราวกับลุ่มหลงมัน เขาหัวเราะเบาๆ “ปวงกาเร จอห์น ครั้งนี้ไม่มีดราฟต์ของผมแล้ว เกมกอบกู้โลกช่วยเหลือมนุษย์คิดจะเล่นต่อไปยังไงล่ะ”

ไดสันสเฟียร์ที่เพิ่งสร้างไม่นานมอดไหม้หมดแล้ว เหลือเพียงกระดานพลังงานไม่กี่แผ่นลอยอยู่ในจักรวาลเท่านั้น นี่คืองานด้านวิศวกรรมชั้นยอดที่มนุษย์ใช้เวลาสร้างเป็นสิบปี และเป็นความหวังสุดท้ายของทุกคน

“จับเขาไว้ ฟอร์ด คุณต้องจับเขาให้ได้!” ดร.จอห์นที่หมดสิ้นหนทางกำแขนนายพลฟอร์ดแน่น

ความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านจากผิวหนัง และใบหน้าบูดเบี้ยวสิ้นหวังของสหายเก่าทำให้นายพลฟอร์ดเข้าใจอะไรบางอย่าง

เขาอ้าปากคิดจะต่อว่า แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคำสั่งเร่งด่วนส่งไปถึงกองบัญชาการทางทหารทั่วโลก “ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร ก็ต้องจับจวงหลี่กลับมาให้ได้!”

เขาเว้นจังหวะสองวินาที แล้วก็เน้นย้ำอย่างถี่ถ้วน “ห้ามทำร้ายเขา ต้องจับเป็น!”

กองทัพทั่วโลกออกปฏิบัติการทันที

แต่จวงหลี่กลับผายมือด้วยสีหน้ารังเกียจ “ผมรู้ว่าพวกเขากำลังเร่งรีบมาจับตัวผม แต่ผมขอบอกลาทุกท่าน ผมไม่คิดจะเล่นสนุกกับพวกคุณต่อแล้ว”

เขากดปุ่มด้านในสุดบนแผงควบคุม เพดานทรงโดมเก็บเครื่องฉายภาพกลับไป แล้วก็กลายเป็นเครื่องชนอนุภาค

วินาทีที่เครื่องมือทำงาน วงแหวนที่ส่องแสงแสบตาปรากฏขึ้นข้างตัวจวงหลี่ ในวงแหวนคือจักรวาลที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และทางช้างเมืองที่ทอดยาว รวมถึงปริศนาที่มืดมิดและไกลแสนไกลไร้ขีดจำกัด

จวงหลี่ก้าวไปหาวงแหวนอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดเสียงแผ่วเบา “ถ้าสามารถกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน และได้พบกับเพื่อนร่วมชาติก็คงดี”

วงแหวนค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น และกลายเป็นประตูบานหนึ่ง

เท้าข้างหนึ่งของจวงหลี่ก้าวเข้าไป แล้วก็ชักกลับมา แหงนหน้าพูดกับกล้องเพดาน “จริงสิ สุดท้ายผมอยากย้ำเตือนอีกสักครั้ง ถึงแม้ว่าชนชาติของผมจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จิตวิญญาณของพวกเราก็ยังคงยืนหยัดตลอดกาล พวกคุณก็สู้ๆ ละ ขอตัวก่อน”

เขาชูกำปั้นให้กำลังใจ แล้วก็ก้มหน้าจ้องมองธงชาติบนอกตนเอง หลังจากนั้นก็หายตัวไปในวงแหวนที่สว่างจ้า

ในเวลานี้เครื่องชนอนุภาคก็ต้านทานพลังมหาศาลที่ทะลักเข้ามาจากต่างมิติไม่ไหว จึงแตกเป็นเสี่ยงๆ

ผู้ชมไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าว่าหมายถึงอะไร แต่ดร.จอห์นเข้าใจดี

เขากำผมที่ยุ่งเหยิงของตนเอง แผดเสียงตะโกนอย่างหวาดกลัวและไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ไม่ เป็นไปไม่ได้! เขาไม่มีทางเปิดทางเชื่อมปริภูมิมิติที่สูงกว่าได้สำเร็จหรอก! เขาทำไม่ได้!”

แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นแล้ว

ความเป็นไปไม่ได้เป็นเพียงมาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้นมาในสายตาของคนบางกลุ่มเท่านั้น

หนังสือแนะนำ All

Special Deal