(* กดเพื่อเปลี่ยนสีพื้นหลัง)

เรื่อง : ทดลองอ่าน อัจฉริยะครองโลก เล่ม 1

Thursday

บทที่ 5 ระบบกลโกง

เวลากลางคืน รถ SUV ผลิตในประเทศที่ดูธรรมดาๆ คันหนึ่งกำลังวิ่งไปบนทางหลวงที่ลาดยาวบนภูเขา ตอนที่ผ่านทางแยก จู่ๆ ก็มีรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านหลังทางซ้ายเข้ามาในทางเอกโดยไม่ลดความเร็วเลยแม้แต่น้อย พุ่งเข้าชนใส่รถ SUV คนนั้น

คนขับรถ SUV มีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาก แม้รถจะถูกชนจนบุบ แต่ก็ไม่สูญเสียการควบคุมในทันที ซ้ำยังเหยียบคันเร่งวิ่งต่อไปข้างหน้า

รถบรรทุกเร่งความเร็วไล่ตามไปทันที

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนฆาตกรรมที่วางไว้ล่วงหน้า

รถสองคนวิ่งแข่งกันบนทางหลวงขึ้นเขา ความเร็วของ SUV เป็นฝ่ายได้เปรียบ เดิมทีสามารถเว้นระยะจากรถบรรทุกได้สบายๆ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีรถสปอร์ตคันหนึ่งขับสวนมาจากด้านหน้า รถ SUV จึงถูกล้อมหน้าล้อมหลัง

รถทั้งสองคนพุ่งชนอย่างไม่คิดชีวิต รถ SUV จึงต้องหักพวงมาลัยเลี้ยวหลบหลีกไปทางขวา แต่เพราะความเร็วที่สูงเกินไป ทำให้ล้อรถระเบิด รถจึงพลิกคว่ำและกลิ้งลงเนิน

เสียงโครมครามดังสั่นหวั่นไหว ตามมาด้วยเปลวเพลิงลุกโชน ทำลายความเงียบในค่ำคืนแสนสงบ

รถบรรทุกรีบขับหนีไปทันที แต่รถสปอร์ตกลับวิ่งบนทางหลวงไปตรวจสอบสถานการณ์บริเวณใกล้ๆ กับรถ SUV แสงสว่างสาดกะพริบอยู่สองทีก็มืดไป คนบนรถสปอร์ตถ่ายรูปสองสามใบ แล้วก็รีบร้อนจากไปทันที

รถ SUV คันนั้นนอนนิ่งอยู่กับที่ กระโปรงหน้ารถมีเปลวไฟลุกโชน น้ำมันไหลทะลักออกมาจากถังน้ำมันไม่หยุด ส่วนสี่คนบนรถล้วนหมดสติ ตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งยวด

ถ้าคืนนี้ไม่มีคนผ่านมา ทั้งสี่คนคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ที่น่าเสียดายก็คือทางหลวงเส้นนี้เดิมทีเป็นเส้นทางหลวงแผ่นดินที่เชื่อมต่อไปยังตำบลเล็กๆ ที่ผู้คนอพยพย้ายออกไปนานแล้ว ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลไหว้บรรพบุรุษ ที่นี่ก็แทบไม่มีใครผ่านมาเลย ซึ่งก็หมายความว่าโอกาสรอดชีวิตของทั้งสี่คนนั้นริบหรี่

น้ำมันยังคงไหลทะลักออกมา หากทำปฏิกิริยากับเปลวไฟต้องเกิดระเบิดขึ้นแน่นอน ในวินาทีชี้เป็นชี้ตาย รถเต่าคันหนึ่งก็วิ่งผ่านมาท่ามกลางความมืด

พอเห็นรถ SUV ที่ถูกกลืนด้วยควันขโมงและเปลวไฟ รถเต่าก็รีบจอดทันที หญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นคนหนึ่งเปิดประตูรถ แล้ววิ่งออกมาเพื่อช่วยเหลือ

เธอใช้กำลังทั้งหมดที่มี แต่ก็ดึงประตูรถที่ถูกชนจนบุบบี้ให้เปิดออกไม่ได้

และในเวลานี้เอง ชายคนหนึ่งในรถ SUV ฟื้นได้สติ พอเห็นหญิงสาวกำลังพยายามช่วยเหลือก็รีบส่งเสียงบอกเธอทันใด “กรุณาช่วยดร.จ้าวก่อนเถอะครับ ผมจะหาวิธีเอง เขานั่งที่เบาะด้านหลังผม”

ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเลือดสดๆ บดบังหน้าตาของเขา แต่น้ำเสียงกลับยังสุขุมลุ่มลึก

หญิงสาวพูดอย่างร้อนรน “ไม่ต้องกลัวนะคะ ฉันจะช่วยคุณออกมาเอง” เธอยังคงดึงประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับอย่างไม่ยอมแพ้

ที่จริงในเมื่อประตูบานนี้เปิดไม่ออก เธอควรลองเปิดประตูบานอื่นและช่วยคนที่มีโอกาสรอดมากกว่าออกมา หลังจากนั้นค่อยหาวิธีช่วยเหลือคนที่เหลือ แต่เธอกลับไม่ทำอย่างนั้น เอาแต่ดึงดังจะช่วยชายหนุ่มคนนี้ให้ได้

สมองของชายหนุ่มถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สมองเขายังตื่นไม่เต็มที่ ร่างกายก็แทบไม่มีเรี่ยวแรง แต่เขาก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ฉุกเฉินแค่ไหน จึงขอร้องอีกฝ่ายอีกครั้ง “ได้โปรดช่วยดร.จ้าวก่อนเถอะครับ” เขาชี้ชายที่นั่งด้านหลังตน

คนคนนั้นยังมีลมหายใจอยู่ ร่างกายแทบไม่มีบาดแผล แค่เปิดประตูหรือหน้าต่างข้างที่นั่งด้านหลังก็จะสามารถช่วยเขาออกมาได้

แต่หญิงสาวเหมือนไม่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม เธอยังคงพยายามดึงประตูที่นั่งข้างคนขับอย่างเอาเป็นเอาตาย

ชายหนุ่มจึงต้องอดกลั้นอาการปวดระบมที่สมองและอาการวิงเวียนเปิดประตูที่นั่งด้านหลัง แต่ร่างกายของเขาถูกเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยบีบรัดอยู่ จึงไม่อาจขยับตัวได้ กลิ่นน้ำมันฉุนกึกทำให้เขาตระหนักได้ว่า - เหลือเวลาไม่มากแล้ว

“ช่วยดร.จ้าว! ไม่ต้องห่วงผม!” เขาใช้น้ำเสียงออกคำสั่งแข็งกร้าว

ในวินาทีชี้เป็นชี้ตายกลับไม่ห่วงชีวิตตัวเอง เสียสละโอกาสรอดให้คนอื่น เห็นได้ชัดว่าดร.จ้าวมีความสำคัญแค่ไหนในใจของชายคนนี้

หญิงสาวพูดเสียงสะอื้น “คุณฟื้นแล้ว ฉันต้องช่วยคุณก่อน”

เธอวิ่งไปที่รถตนเองอย่างรีบร้อน เปิดหลังรถ หยิบชะแลงออกมา แล้วก็วิ่งกลับมางัดประตู

สมองของชายหนุ่มปวดระบมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับหัวกำลังจะระเบิด แต่เขาก็ยังพูดย้ำไม่หยุด “ช่วยดร.จ้าว ผมให้คุณร้อยล้าน ผมเอาบัตรธนาคารให้คุณตอนนี้เลยก็ได้ ไม่ระบุชื่อ รหัสคือเลขหกหกตัว”

เขาคลำหากระเป๋าสตางค์ขณะพูด

แต่คำพูดของเขากลับไม่เข้าหูของหญิงสาว พอเธอใช้ชะแลงงัดประตูจนเปิดออกก็ลากชายหนุ่มที่ขาหักทั้งสองข้างออกมาจากรถ

ชายหนุ่มยื่นมือไปดึงประตูเบาะด้านหลัง เดิมทีเขาคิดว่าจะติดขัด แต่แค่ปลายนิ้วดึงที่จับเบาๆ ประตูก็เปิดออกอย่างง่ายดาย ดร.จ้าวที่กำลังหมดสติอยู่ใกล้แค่เอื้อม

แต่ในเวลาเดียวกัน น้ำมันก็เริ่มทำปฏิกิริยากับเปลวไฟแล้ว ควันหนาทึบกลิ่นฉุนกึกลอยคลุ้ง ถ้าเปลวไฟลามไปถึงถังน้ำมัน รถคันนี้ก็จะระเบิดทันที

ปลายนิ้วของชายหนุ่มสัมผัสโดนไหล่ของดร.จ้าวแล้ว แต่หญิงสาวกับกรีดร้อง แล้วลากเขาออกไปไกล หลังจากนั้นก็ใช้ร่างกายผอมบางทับบนตัวเขาเพื่อคุ้มกัน

เสียงระเบิดดังสนั่นไปถึงก้อนเมฆ ควันโขมงหนาคลุ้งบดบังแสงจันทร์ เพลิงสีแดงกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง

ชายคนนั้นจ้องมองเปลวไฟเผาร่างกายของดร.จ้าว แม้อีกฝ่ายกำลังหมดสติ แต่ก็ยังส่งเสียงร้องครางเบาๆ ใบหน้าที่สงบนิ่งเริ่มบูดเบี้ยวเพราะความทุกข์ทรมาน

เพื่อนร่วมทางอีกสองคนบนรถเพิ่งฟื้นได้สติ แต่สุดท้ายก็จมสู่นรกท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน

ภาพเหตุการณ์ที่โหดร้ายทารุณกลายเป็นน้ำตาสีเลือดไหลอาบใบหน้าของชายที่แข็งแกร่ง เขาผลักร่างของหญิงสาวออกไป จ้องมองภาพเหตุการณ์โหดร้ายเบื้องหน้าอย่างทุกข์ทรมาน แต่สุดท้ายเขาก็หมดสติไปเพราะความเจ็บปวดรวดร้าวและความเคียดแค้นสุดขีด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนกว่าชายหนุ่มจะฟื้น และเขาก็พบว่าตนเองไม่ได้ถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่กลับนอนอยู่ในห้องแคบๆ ขนาดยี่สิบตารางเมตร

การตกแต่งภายในบอกให้รู้ว่านี่เป็นห้องของผู้หญิง ม่านลายแพตเทิร์นดอกไม้ โซฟาสีชมพู ผ้าปูโต๊ะลูกไม้ ตุ๊กตาน่ารักๆ

ชายหนุ่มรีบสำรวจร่างกายทันที เขาพบว่าขาสองข้างที่หักมีการดามและพันแผลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว จัดกระดูกได้เข้าที่ น่าจะไม่เกิดผลข้างเคียงในอนาคต บนหัวก็มีผ้าก๊อซพันรอบหัว อาการปวดเหมือนหัวจะระเบิดหายไปแล้ว

นอกจากนั้น เสื้อสูทที่เขาใส่ในตอนแรกไม่รู้ไปอยู่ไหน ตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนสะอาดหมดจด แต่ขนาดเล็กกว่าตัวเขาหนึ่งไซส์ ทำให้ผ้าแนบกับกล้ามแน่นๆ ของเขา ส่วนนาฬิกา โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์รวมถึงของติดตัวอื่นๆ ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว

ไม่นานเขาก็นึกเหตุการณ์รถ SUV มอดไหม้และใบหน้าของเพื่อนร่วมเดินทางอีกสามคนจมหายไปในกองเพลิงออก

พวกเขาตายแล้ว

ตายจากเหตุฆาตกรรม!

อาการปวดระบมที่เพิ่งผุดขึ้นมาอีกครั้งถูกแทนที่ด้วยความโกรธแค้นสุดขีด

อารมณ์เศร้าโศกเกินต้านทานถูกสลัดออกไปในไม่ช้า เขาเริ่มขบคิดพิจารณาว่าผู้วางแผนและผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุฆาตกรรมครั้งนี้คือใคร

ทั้งบริษัทมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ข้อมูลเรื่องดร.จ้าวเสนออัลกอรึทึม 5G แผนการเดินทางไปอเมริกาเพื่อรับดร.จ้าวก็มีแค่เขาและบอดี้การ์ดสองคนเข้าร่วมเท่านั้น ซึ่งปกปิดเป็นความลับสุดยอด

ภายใต้สถานการณ์นี้ ใครกันที่รู้ข่าวว่าดร.จ้าวคิดค้นอัลกอริทึม 5G และรู้เส้นทางที่ใช้ระหว่างเดินทางกลับได้อย่างแม่นยำเพื่อลอบทำร้าย คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดจากเหตุการณ์นี้คือใครกันแน่

ชายหนุ่มขบคิดอยู่พักใหญ่ก็เริ่มคลำทิศทางได้

คู่แข่งทั้งในและนอกประเทศที่พัฒนาเทคโนโลยีในขอบเขตเดียวกันสามารถก้าวเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ได้ทันทีเมื่อกำจัดดร.จ้าวทิ้ง ส่วนการใช้งานเทคโนโลยี 5G นั้นก็ช่วยทำให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล หรืออาจถึงขั้นทำให้ประเทศก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจเลยก็ว่าได้

เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงผลประโยชน์ของประเทศ ความเป็นไปได้ที่บริษัทคู่แข่งภายในประเทศจะก่อเหตุนี้นั้นต่ำกว่าคู่แข่งต่างประเทศ

ชายหนุ่มสันนิษฐานว่าการฆาตกรรมครั้งนี้เป็นไปได้สูงว่าเป็นแผนการของประเทศอเมริกา อีกฝ่ายลอบทำร้ายดร.จ้าวได้อย่างเหมาะเจาะและแม่นยำถึงขั้นนี้ แสดงว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ใกล้ตัว แต่ว่าคนคนนั้นเป็นใครกันแน่

พอคิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วมุ่น

ในบริษัท คนที่รู้เรื่องดร.จ้าวเขียนอัลกอริทึม 5G ได้ก็มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ส่วนเขาก็ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้มาก่อน การเดินทางรับดร.จ้าวกลับจากต่างประเทศ เขาก็เป็นคนวางแผนด้วยตนเอง บอดี้การ์ดสองคนก็รับหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยเท่านั้น ไม่รู้ข้อมูลอื่นๆ หนำซ้ำพวกเขาก็เสียชีวิตท่ามกลางระเบิดครั้งนี้ด้วย

ซึ่งก็หมายความว่า นอกจากตัวเขาแล้วก็ไม่มีใครสามารถขายข้อมูลให้อเมริกาได้

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีแต่ความไม่ชอบมาพากลเต็มไปหมด

พอขบคิดถึงตรงนี้ หัวสมองของชายหนุ่มก็เริ่มปวดระบม เขาจึงดึงผ้าพันแผลที่คางออก พยายามใช้แขนสองข้างดันตัวให้ลุกขึ้นนั่ง

และในเวลานี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก หญิงสาวหน้าตาสะสวยอ่อนโยน รูปร่างผอมเพรียวคนหนึ่งก็ยกซุปไก่ในหม้อต้มเข้ามาในห้อง คำพูดจากปากเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย “โธ่ อย่าเพิ่งขยับสิคะ ขาของคุณเพิ่งจะต่อกระดูกไปเอง ระวังกระดูกจะเคลื่อนที่นะคะ”

พอเห็นหญิงสาว ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วเป็นปม เขาไม่มีวันลืมว่าความโง่เง่าและดันทุรังของคนคนนี้ทำให้ดร.จ้าวสูญเสียโอกาสที่จะมีชีวิตรอด

เมื่อประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับเปิดไม่ออก ก็ควรลองเปิดประตูที่นั่งเบาะหลัง แล้วช่วยคนที่ช่วยง่ายออกมาก่อน หรือว่านี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดหรอกหรือไง แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเพ่งเล็งมาที่เขาคนเดียว ชีวิตคนอื่นไม่อยู่ในสายตาของเธอ

ใบหน้าที่เข้มแข็งของชายหนุ่มดูดุดันเย็นชาภายใต้ความโกรธแค้นที่กำลังแผดเผา เขาไม่ได้ขอบคุณเธอ แต่กลับยิงคำถามทันที “คุณแจ้งตำรวจหรือยัง ร่างของดร.จ้าวและคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน”

รอยยิ้มหยาดเยิ้มของหญิงสาวแข็งเกร็งทันที

ชายหนุ่มหันไปมองฝนที่ตกกระหน่ำนอกหน้าต่าง ในใจร้อนรุ่ม วันนี้ฝนตกหนัก ร่องรอยการถูกไล่ตามบนถนนทางหลวงคงโดนฝนชำระล้างจนสะอาด ระหว่างทางก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ถึงแจ้งตำรวจเวลานี้ ฝั่งตำรวจคงสืบอะไรไม่ได้อยู่ดี

ทุกอย่างสายไปแล้ว

ที่ยากจะเข้าใจคือผู้หญิงคนนี้พาเขาออกจากที่เกิดเหตุ แต่กลับทิ้งร่างของดร.จ้าวกับคนอื่นๆ ไว้ที่เดิม ปล่อยให้มอดไหม้ในกองเพลิง เธอคิดอะไรในใจกันแน่ การช่วยเหลือของเธอมาจากเจตนาที่ดีหรือเพื่อจุดประสงค์บางอย่างที่บอกใครไม่ได้?

ความคิดนี้เป็นเหมือนกับกลไกทำให้สมองของชายหนุ่มปวดร้าวระบมทันใด แต่พออาการปวดหายไป เขากลับได้ยินเสียงตะโกนอย่างร้อนรนของหญิงสาว “แย่แล้ว! เรารีบช่วยเซวียนหมิงจนลืมจัดการศพของดร.จ้าวไปเลย! เกิดอุบัติเหตุใหญ่ขนาดนี้กลับไม่แจ้งตำรวจ มันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ นั่นแหละ! เขาสงสัยเราแล้ว!”

ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะเป็นประธานกลุ่มธุรกิจเครือไห่หมิง และเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศจีนก็ตาม แต่เขาไม่เคยเปิดเผยโฉมหน้าต่อหน้าสื่อเลยสักครั้ง แล้วผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนคนนี้รู้จักเขาได้ยังไง หนำซ้ำยังรู้จักดร.จ้าวอีกด้วย

ปกติแล้วดร.จ้าวจดจ่ออยู่กับการวิจัยเทคโนโลยี ใช้ชีวิตปลีกวิเวกยิ่งกว่าเขาเสียอีก นอกจากเพื่อนร่วมวงการ ดร.จ้าวไม่มีทางทำความรู้จักกับผู้หญิงแปลกหน้าแน่นอน

สายตาเฉียบคมของชายหนุ่มจับจ้องไปที่หญิงสาว ในใจเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

แต่ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นว่าสิ่งที่แปลกประหลาดไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงแปลกหน้ารู้จักตัวตนของเขา ที่พิลึกที่สุดคือตอนที่อีกฝ่ายตะโกนพูดประโยคก่อนหน้า เธอไม่ได้ขยับปากเลยสักนิด

เธอกำลังยกซุปไก่มาให้เขา รอยยิ้มแข็งเกร็งแช่อยู่บนใบหน้า แต่ก็ยังดูสวยหวาน ดวงตากะพริบปริบๆ ท่าทางไร้เดียงสา เสียงตะโกนก่อนหน้าเหมือนดังมาจากสมองของเธอ

ชายหนุ่มแอบตะลึงงันในใจ แต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม

หญิงสาวก้มหลังลง วางซุปไก่บนโต๊ะน้ำชา ปากยังคงปิดสนิท แต่เสียงพูดของเธอกลับส่งไปถึงหัวสมองของชายหนุ่ม

“ระบบ ยาสูญเสียความทรงจำที่ฉันใช้แต้มแลกมาได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า”

น้ำเสียงเย็นเยือกไร้ความรู้สึกเหมือนกับหุ่นดังขึ้นในหัวของชายหนุ่ม “โฮสต์ได้โปรดอย่าเคลือบแคลงใจต่อความสามารถของระบบ แค่โฮสต์เกลี้ยกล่อมเป้าหมายของภารกิจให้ดื่มซุปไก่ เขาก็จะลืมทุกสิ่งจนหมดสิ้น”

“แล้วต่อไปเขาจะนึกออกหรือเปล่า”

“ถ้าโฮสต์มีความจำเป็นก็สามารถใช้แต้มแลกยาถอนพิษจากเราได้”

“มียาถอนพิษด้วยเหรอ เม็ดละเท่าไรล่ะ”

“3000 แต้มต่อหนึ่งเม็ด”

“3000 แต้ม? ไม่ไปเป็นโจรซะเลยล่ะ”

“แค่โฮสต์พิชิตเซวียนหมิงได้สำเร็จก็จะได้เป็นผู้โชคดีของโลกใบนี้ สำหรับคุณแล้ว 3000 แต้มมีมูลค่าเพียงน้อยนิดเท่านั้น”

“ก็จริงแฮะ ตอนที่ช่วยชีวิตเขา ฉันรีบร้อนเกินไปหน่อย ลืมไปว่าบนรถยังมีจ้าวเจิ้นเซิงกับคนอื่นๆ อีก ตอนนี้เซวียนหมิงต้องกำลังสงสัยฉันแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่ดื่มซุปไก่เข้าไป เขาก็จะลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ทั้งหมด”

“ถูกต้อง ดังนั้นโฮสต์ต้องใช้โอกาสให้คุ้มค่าในระหว่างที่เซวียนหมิงสูญเสียความทรงจำ”

“ไม่ต้องมาสอนหรอกย่ะ ฉันช่วยชีวิตเขา แถมยังเอาใจใส่ดูแลเขาอย่างดี เขาต้องหลงรักฉันแน่ๆ ไว้เขาหลงรักฉันจนหัวปักหัวปำเมื่อไร ฉันค่อยเอายาถอนพิษให้เขากิน เขาก็จะไม่สงสัยฉันอีกแล้ว”

“ถึงตอนนั้นโฮสต์สามารถบอกเขาได้ว่าที่ไม่แจ้งตำรวจเป็นเพราะข้างนอกมีคนตามมาฆ่าเขา โฮสต์แอบพาเขาออกไปจากที่เกิดเหตุเพื่อปกป้องเขา”

“ถูกต้อง เหตุผลที่ไม่พาไปส่งโรงพยาบาลก็เหมือนกัน ถ้าไปโรงพยาบาล นักฆ่าก็ต้องไล่ตามมาแน่นอน! ระบบ เธอนี่ฉลาดจริงๆ!”

“โฮสต์ชมเกินไปแล้ว กรุณาทำภารกิจขั้นแรกให้เสร็จสิ้นเถอะ บอกแล้วว่าเข้าใกล้เรือนริมน้ำจะได้เห็นจันทร์ก่อนใคร ใครมาก่อนก็ได้เปรียบ ระบบได้สร้างโอกาสให้โฮสต์แล้ว ต่อจากนี้โฮสต์ต้องใช้โอกาสด้วยตนเอง”

“รู้แล้วๆ พอเซวียนหมิงความจำเสื่อม เขาก็จะกลายเป็นเหมือนกระดาษขาว แค่แป๊บเดียวฉันก็จัดการเขาอยู่หมัดแล้ว”

บทสนทนานี้จบลงแล้ว ซึ่งหญิงสาวไม่ได้ขยับปากพูดเลยตั้งแต่แรกจนจบ

สายตาเฉียบแหลมของเซวียนหมิงเคลื่อนจากใบหน้าสะสวยไปยังซุปไก่ที่เห็นได้ชัดว่ามีปัญหา แล้วก็เคลื่อนไปยังห้องของบุคคลที่สามซึ่งไม่มีอยู่จริง ในใจเต็มไปด้วยความฉงน

แต่เขาเคยเจอเหตุการณ์ทั้งเล็กทั้งใหญ่มานับไม่ถ้วน เวลานี้จึงยังควบคุมท่าทีได้เหมือนเดิม เพียงแต่เปลือกตาปิดลงครึ่งหนึ่ง บดบังแสงประกายในส่วนลึกของรูม่านตา

หญิงสาวยิ้มหวานให้เขา “คุณหมดสติไปหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเต็มๆ ดื่มซุปไก่รองท้องก่อนเถอะค่ะ” พอพูดจบก็ยกข้อมือขึ้น ยื่นซุปไก่หนึ่งชามไปที่ปากของเซวียนหมิง

หนังสือแนะนำ All

Special Deal