(* กดเพื่อเปลี่ยนสีพื้นหลัง)

เรื่อง : ทดลองอ่าน ยุทธภพเหนือชะตา เล่ม 01

Monday

บทที่ 5 พิชิตใจ

หานชิงวางไซว่วั่งบนเตียง ประทับฝ่ามือเหนือศีรษะไซว่วั่ง ถ่ายทอดกระแสพลังอุ่นร้อนเข้าสู่กลางกระหม่อม ราวอึดใจไซว่วั่งก็ฟื้นคืนสติ 

ไซว่วั่งลืมตา มองหานชิงแล้วหลับตาอีก ลูกตาของเขากลอกไปมา แต่เด็กคนนี้กัดฟันแน่น หน้าบวมจนแดงเถือก  หานชิงเข้าใจว่าเขาจะร้องไห้ แต่ไม่ใช่ เขาไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว เอาแต่กัดฟันและหลับตาอยู่อย่างนั้น 

หานชิงเรียก “ไซว่วั่ง!”

ไซว่วั่งลืมตาขึ้นช้าๆ ขอบตาปริ่มน้ำแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ไหลลงมา 

เขาข่มกลั้นอย่างยากเย็นปานนั้น

ตอนแรกหานชิงอยากเกลี้ยกล่อมเขาว่า ‘ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้’ แต่สถานการณ์ตอนนี้ประโยคนั้นกลับเปลี่ยนเป็นเสียงถอนหายใจ “ไซว่วั่ง ถ้าเจ้าอยากร้องก็ร้องออกมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”

ได้ยินแค่เด็กสี่ขวบคนนั้นกัดฟันเข่นเขี้ยว “ข้าไม่ร้อง ข้าจะไม่ร้องไห้”

หานชิงนิ่งเงียบ

ชั่วครู่ผ่านไป เด็กคนนั้นพูดเสียงค่อย “นางไม่ต้องการข้าแล้ว ข้าจะไม่ร้องไห้”

หานชิงยังอยากอธิบาย “ไม่ แม่เจ้าไม่ใช่ไม่ต้องการเจ้า” แต่พอเผยอปากก็รู้สึกในคอเฝื่อนขม หากกล่าววาจาน่ากลัวจะปนเสียงสะอื้นออกมา เขาได้แต่ตบไหล่ไซว่วั่ง สั่นหน้าไปมา

เด็กคนนั้นพูดประโยคนี้จบ ตาแดงกว่าเดิม น้ำในเบ้าตาเจียนหยด แต่เด็กน้อยใจเด็ดคนนี้พยายามเหลือกตาสุดชีวิต ไม่ให้มันไหลลงมา เขาเม้มปากและกัดฟันแน่น แต่ทรวงอกกระเพื่อมแรงขณะสูดหายใจลึก

หานชิงอดใจไม่อยู่ต้องอุ้มไซว่วั่งขึ้นมาอีกครั้ง กอดแนบแน่นไว้ในอ้อมอก

จากนั้นรู้สึกได้ว่าคอเสื้อเริ่มเปียกชื้น ไซว่วั่งสะอึกสะอื้นไร้เสียง เขาซุกหน้ากับแผงอกหานชิง ไม่ส่งเสียง แต่เนื้อตัวสั่นกระตุก เสียงสะอื้นและเสียงหอบหายใจที่ถูกข่มกลั้นไว้กลับยิ่งปะทุรุนแรง

หานชิงอุ้มไซว่วั่งพลางตบหลังเขาเบาๆ สักพักใหญ่พูดว่า “ตอนเจ้าร้องไห้ ท่านอาหานจะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน”

ไซว่วั่งจับเสื้อเขาแน่น และแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ตอนโยเย ไซว่วั่งก็ตระหนักแล้วว่าท่านแม่ไม่กลับมาอีกแล้ว แต่ในฐานะเด็กที่ถูกโอ๋จนเคยตัวจะคิดเสมอว่าไม่มีสิ่งใดที่เขาไม่ได้มา ขอเพียงเขานั่งลงกระจองอแงร้องไห้เสียงดัง สิ่งที่ต้องการก็จะสมดังปรารถนา ต่อให้เป็นสิ่งที่เอามาไม่ได้อย่างเช่นพระจันทร์บนฟ้า ก็ต้องได้รับสิ่งที่ใกล้เคียงอย่างเช่นขนมไหว้พระจันทร์ ไซว่วั่งคิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้าร้องไห้กระจองอแง บางทีท่านแม่ก็จะลุกขึ้นมาอุ้ม บางทีท่านแม่ก็จะไม่ตาย แม้ความหวังริบหรี่ แต่ไม่แน่อาจเป็นไปได้

ทว่าวันนี้เรื่องราวได้รับการพิสูจน์ การแหกปากร้องไห้ฟูมฟายนอกจากทำให้ตัวเองโดนเตะก้นแล้วไม่มีประโยชน์อื่นใด ท่านแม่ของเขาตายแล้วจริงๆ จะไม่มาให้เห็นอีกแล้ว ชั่วขณะนี้ไซว่วั่งแจ่มแจ้งในที่สุด บนโลกนี้มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจมากมายที่เขาหมดหนทางเปลี่ยนแปลงและทำอะไรไม่ได้ ในฐานะคนผู้หนึ่ง โดยเฉพาะเด็กเล็กคนหนึ่ง สถานการณ์ขณะนั้นไม่ส่งผลกระทบกับตนเองมากนัก

ไซว่วั่งรู้สึกเสียใจและผิดหวังรุนแรงต่อโลกใบนี้เป็นครั้งแรก โชคดีที่ยังมีอ้อมกอดอันอบอุ่นของคนผู้หนึ่ง โอบอุ้มเขาและอภัยให้กับน้ำตาของเขาในขณะที่เขาตัดสินใจไม่ร้องไห้

หานชิงถอนหายใจพลางบอกกับเด็กที่หลั่งน้ำตาเงียบๆ ในอ้อมอก “ไซว่วั่ง เจ้าโตแล้ว ต้องหัดควบคุมอารมณ์ตัวเอง”

นานพักใหญ่ น้ำตาแห้งเหือด ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า

ไซว่วั่งยื่นมือน้อยๆ ออกมาลูบแก้มหานชิงที่เคยถูกตนตบ จากนั้นยื่นหน้าเข้าไปเช็ดน้ำมูกน้ำตากับตรงนั้น ซบศีรษะกับใบหน้าหานชิงเบาๆ พลางกระซิบออดอ้อน “ท่านอาหาน ข้าอยากดื่มน้ำ ท่านป้อนข้า”

หานชิงผงกศีรษะ ตัดสินใจพะเน้าพะนอเหวยไซว่วั่งเหมือนกับแม่ของเขา ส่วนเรื่องการอบรมสั่งสอน วันหน้าค่อยว่ากัน

เหวยสิงไปแล้ว เหลิ่งอู้ไม่ได้ปรากฏตัว

ไซว่วั่งหลับอยู่ในห้องหานชิง ตอนแรกยังเข้านอนเอง แต่สะดุ้งตื่นเนืองๆ ทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นเป็นต้องกรีดร้องดังลั่น “ท่านแม่!” แต่พอลืมตาก็รู้ว่าท่านแม่ไม่อยู่แล้ว จึงเปลี่ยนมาเรียก “ท่านอาหาน!” 

หานชิงจำต้องวิ่งจากอีกห้องหนึ่งมาตบๆ พลางปลอบโยน ไซว่วั่งสะอึกสะอื้นแล้วผล็อยหลับไป หากหานชิงมาถึงช้า ไซว่วั่งก็จะลุกขึ้นนั่งบนเตียง แหกปากร้องไม่หยุด ชุ่ยชีก็รับมือไม่อยู่ หานชิงถูกเขาเล่นงานจนพรั่นพรึงแล้ว จึงพกไซว่วั่งน้อยติดตัวเสียเลย ตอนกลางคืนพอเจ้าตัวเล็กมือไม้กระตุก ยังไม่ทันตั้งท่าแหกปากก็รีบตบๆ หลังไหล่พลางปลอบ “ไม่มีอะไรๆ ท่านอาอยู่ตรงนี้” ช่วงแรกไซว่วั่งยังลืมตา ต่อมาขอเพียงตบๆ ก็จะพลิกตัวหลับต่อ ไม่ช้าสถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้น ไม่สะดุ้งตื่นอีก

เช่นนี้เอง ไซว่วั่งถูกรับช่วงไปดูแลต่อ เขายังร่าเริงและซุกซนไม่เปลี่ยน เพียงแต่ใจลอยเป็นบางครั้ง เขาเป็นเด็กเล็กคนหนึ่ง หานชิงไม่ทราบว่าตอนเขาใจลอยนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากนั้นยังติดคนมากกว่าเดิม คล้ายว่าสูญเสียคนใกล้ชิดจึงกลัวจะเสียคนใกล้ชิดไปอีก มักเกาะแจหานชิงแทบตลอดเวลา บางทีออกไปวิ่งเล่น เล่นได้ครึ่งเดียวก็วิ่งกลับมาดูหานชิงอยู่ที่ไหน หากไม่เห็น เขาจะเดินหาไม่หยุด ดังนั้นหากหานชิงจะออกไปไหนไกลต้องบอกเด็กน้อยไซว่วั่งก่อน 

ชุ่ยชีหัวเราะไซว่วั่ง “ท่านประมุขปกครองทุกคน ไซว่วั่งปกครองท่านประมุข”

ปกติไม่มีเรื่องอะไร ไซว่วั่งชอบสองมือสองเท้ากอดขาหานชิง เหมือนถุงทรายขนาดใหญ่ห้อยอยู่บนตัวหานชิง ไม่ก็นั่งบนไหล่หานชิง ต้อนรับวีรชนผู้กล้าจากทั่วสารทิศด้วยกัน

งานที่เป็นทางการขึ้นมาหน่อย ไซว่วั่งจะใช้มือจับชายเสื้อหานชิง จงใจจ้องมองพวกที่ทำให้เขาไม่สามารถติดสอยห้อยตามหานชิง

ทว่า ไซว่วั่งเริ่มค่อยๆ เชื่อฟังหานชิงมากขึ้น

หานชิงหน้านิ่วคิ้วขมวดดุเขา เขายังมีท่าทีก้าวร้าว อารมณ์เสียขว้างปาข้าวของ ทว่าตอนเอาแต่ใจตัวเองครั้งต่อมาจะกริ่งเกรงอยู่บ้าง ดื้อแค่ไหนก็เข้าใจดีว่าคนผู้นี้ไม่ใช่ท่านแม่ ต้องทะนุถนอมความรักของเขาเป็นพิเศษ

เหวยสิงกลับมาเป็นครั้งคราว เหวยไซว่วั่งจะหายวับไปทันทีไม่เห็นแม้เงา

แต่จากข่าวลือ เหวยสิงก็ทราบ “ได้ยินว่าเจ้าตามใจเดรัจฉานน้อยนั่นมาก” 

หานชิงยิ้มเฝื่อน “เขาชื่อไซว่วั่ง ไม่ใช่เดรัจฉานน้อย”

เหวยสิงแค่นหัวเราะ “ข้าใช่สมควรขอบคุณเจ้าหรือไม่” เดิมทีเข้าใจว่าเป็นลูกของเหลิ่งอู้ แต่หานชิงดีกับเด็กคนนี้มากเหลือเกิน เขาเริ่มสงสัยว่านั่นเป็นลูกของเหลิ่งชิวแล้ว

หานชิงเงียบงัน

ไม่ว่าเหวยสิงรู้หรือไม่ ข่าวซุบซิบพรรค์นี้จะไม่หลุดออกจากปากเขาแน่

เงียบอยู่ครู่หนึ่ง เหวยสิงถาม “เจ้ายังจะถ่ายทอดวิทยายุทธ์ให้เขาด้วยหรือ?”

หานชิงเงียบงัน ใช่ว่าไม่ลังเล เด็กคนนี้อย่างไรก็เป็นลูกศัตรู วันหน้าหากสังหารบิดาของเด็กคนนี้ ต้องป้องกันเด็กคนนี้มาล้างแค้นหรือไม่ หากหานชิงไม่เคยเจอไซว่วั่ง ไม่เคยดูแลไซว่วั่ง ไม่เคยเห็นแววตาผูกพันและไว้เนื้อเชื่อใจของไซว่วั่ง เช่นนั้นคำตอบก็เป็นไปได้ว่าไม่ต้องบอกก็ทราบ ตอนนี้หานชิงกำลังลังเล นานอึดใจใหญ่เขาเงยหน้า “อาจจะ”

เหวยสิงเงียบไปชั่วขณะ “บางครั้งก็อยากฆ่าเขาจริงๆ”

หานชิงว่า “ข้ารู้ แต่ข้าก็รู้ว่าเจ้าจะไม่ทำอย่างนั้น”

หากเขาหักใจลงมือได้ ปีนั้นคงฆ่าซือซือไปแล้ว เหวยสิงมีฐานะในยุทธภพและมีวิทยายุทธ์เป็นเลิศ มีคุณสมบัติมีกำลังความสามารถที่จะเรียกร้องความเคารพนับถือจากผู้อื่น เขาสามารถฆ่าคนโดยพลการเพราะคำพูดประโยคเดียว แต่กลับกล้ำกลืนความอดสู ปล่อยให้สตรีของเขามีชีวิตต่อไป

แม้แต่หานชิงยังเหลืออดจนอยากพูดกับซือซือ ‘หากเจ้าไม่ไปจากที่นี่ก็คือต้องตาย เจ้าจะเลี้ยงเด็กที่ไม่ใช่สายเลือดของเหวยสิงอยู่ในบ้านของเหวยสิงไม่ได้’ นี่ไม่ใช่ความอับอายที่บุรุษซึ่งรักเจ้าคนหนึ่งสมควรต้องทน

หานชิงไม่ได้พูด แต่แววตาเขายังคงเปิดโปงการประณามและความไม่เห็นด้วยของเขา มีบางเวลาหานชิงครุ่นคิด ตัวเองคงเป็นหนึ่งในคนที่ผลักดันซือซือไปสู่ความตายกระมัง

มิตรภาพระหว่างเขากับเหวยสิงแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง หมดปัญญามองเรื่องนี้ในแง่ดี ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เข้าใจหัวอกและเห็นใจเหวยสิงมากกว่า เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เขาจะไปเห็นใจโดยปราศจากอคติต่อคนที่เขาเรียกขานว่าพี่สะใภ้ซึ่งมอบความรักให้กับศัตรูของเขา

ทว่า เด็กน้อยเป็นผู้บริสุทธิ์ แม้การมีอยู่ของเด็กคนนี้ทำให้เหวยสิงอึดอัดลำบากใจ หานชิงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกทางอื่น หานชิงตำหนิตัวเองที่เฉยชากับเรื่องการฆ่าตัวตายของซือซือ เขาคิดว่าถ้าเหวยสิงไม่ยินดีดูแลไซว่วั่ง ไซว่วั่งก็ควรเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเขา

มิหนำซ้ำ เขาชอบเด็กคนนี้

ใจกล้า ก้าวร้าว ดื้อรั้น เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ แต่กลับเป็นเด็กที่มีน้ำใจไมตรีคนหนึ่ง 

เงียบงันอยู่นานมาก เหวยสิงลุกขึ้นเดินจากไปในที่สุด ก่อนไปเขากล่าววาจาพิลึกประโยคหนึ่ง “ยังไงเขาก็เป็นลูกของซือซือ”

หานชิงจู่ๆ รู้สึกเบ้าตาร้อนผ่าว

เฮอะ เหวยสิง จนป่านนี้เจ้ายังลืมรักไม่ได้หรือ

เหวยสิงจากไป เหวยไซว่วั่งไม่ทราบโผล่ออกมาจากที่ใด “เขาไปแล้วหรือ คนน่ารังเกียจนั่นไปแล้วหรือ”

หานชิงชักสีหน้า “ใคร ใครคือคนน่ารังเกียจ”

ไซว่วั่งโดดพรวดขึ้นไปนั่งบนเข่าหานชิงและกอดคอ “ท่านทาย ข้าหมายถึงใคร”

หานชิงยิ้มเฝื่อน

ไซว่วั่งหัวเราะคิกคัก “ดู ท่านก็รู้ว่าใครคือคนน่ารังเกียจ”

หานชิงดุเบาๆ “ห้ามพูดเหลวไหล”

ไซว่วั่งกอดคอหานชิง เงียบไปครู่หนึ่งก่อนถาม “เพราะอะไรท่านไม่ใช่พ่อข้า ท่านอาหาน ท่านเป็นพ่อข้าได้หรือไม่”

หานชิงยิ้มเฝื่อน “เหลวไหล รีบไปให้พ้นข้าเดี๋ยวนี้เลย”

ไซว่วั่งยิ่งกอดเขาแน่นกว่าเดิม ทั้งซุกทั้งไซ้ หานชิงลูบศีรษะไซว่วั่งเบาๆ นึกในใจว่า ‘มีลูกชายคนหนึ่ง ไม่เลวจริงๆ’ แต่ว่า…เขาหดหู่ใจเล็กน้อย เขาไม่อาจอยู่กับคนที่ตัวเองรัก กับลูกชายก็ยิ่งไม่มีหวัง

มีอำนาจก็สามารถครอบครองทุกอย่างหรือ ยิ่งมีมากเท่าไรก็ต้องเสียสละสิ่งที่ท่านรักมากเท่านั้น

หนังสือแนะนำ All

Special Deal