Wednesday
ในรีสอร์ตมีห้องอาหารรวมแล้วสิบกว่าแห่ง อาหารจีน อาหารตะวันตก อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่นพร้อมพรัก แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คืออาหารพื้นบ้านที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี่
พ่อบ้านจางจัดการสั่งทุกอย่างไว้เรียบร้อยระหว่างทาง ผู้จัดการที่ประจำกะอยู่ในร้านอาหารได้จัดที่นั่งริมหน้าต่างที่วิวดีที่สุดของชั้นสองให้ จู่ฉียังไม่ทันเดินเข้ามาถึงตัวร้าน เขาก็พาพนักงานเจ็ดแปดคนไปยืนรอรับอยู่ข้างหน้าแล้ว
พอมองจากไกลๆ ก็เห็นคนร่างสูงขายาวแต่ท้องโตคนหนึ่งมีพ่อบ้านจางประคองเดินมา ผู้จัดการก็รีบยิ้มเบิกบาน
“คุณนายมาแล้วหรือขอรับ”
พูดคำสุดท้ายยังไม่ทันจบ ผู้จัดการก็เห็นหน้าตาจู่ฉีชัดเจน จากนั้นกิริยาต้อนรับก็ชะงักกึก...นี่เป็นผู้ชายชัดๆ
แต่เพียงชั่วพริบตาเขาก็จัดการตัวเองได้ รีบก้มหน้าลงซ่อนความประหลาดใจในแววตา ยิ้มรับแล้วกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับขอรับ”
พนักงานที่อยู่ด้านหลังก็ก้มหน้า ไม่กล้าหายใจแรง
จู่ฉีปรายตามองผู้จัดการที่ยิ้มได้เสแสร้งยิ่งกว่าดอกไม้พลาสติก ส่งเสียงรับคำเรียบๆ
“ผู้จัดการฉิน อาหารเตรียมพร้อมหรือยัง?” พ่อบ้านจางถาม
“พร้อมแล้วครับ” ผู้จัดการรีบผายมือทำท่าเชิญ สายตาที่แอบมองจู่ฉีมีแววค้นหาความจริงสามส่วนสงสัยเจ็ดส่วน ท้ายสุดก็กลับคืนสู่ความสงบ
เขาเดินอย่างรวดเร็วไปนำทางข้างหน้า “เชิญคุณนายขึ้นไปพักผ่อนข้างบนก่อน ผมจะให้ห้องครัวเอาอาหารมาส่งเดี๋ยวนี้ขอรับ”
พูดจบเขาก็ทำมือเป็นสัญญาณบอกพนักงาน พนักงานคนนั้นกลายเป็นกระต่ายวิ่งปรูดไปที่ห้องครัวในชั่วพริบตา
จู่ฉีเดินขึ้นข้างบนไปภายใต้การประคับประคองของพ่อบ้านจางกับผู้จัดการประจำกะ ด้านหลังมีสาวใช้กับบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเดินตาม ขบวนใหญ่โตอลังการจนลูกค้าที่อยู่ชั้นล่างอ้าปากค้าง
รอจนเงาหลังของพวกเขาหายลับไปตรงมุมบันได คนที่อยู่ชั้นล่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
“นี่ พวกนายรู้ไหมว่าคนใหญ่คนโตคนไหนขึ้นไปเมื่อกี้? ขบวนใหญ่ไปหน่อยไหม ฉันยังนึกว่าเป็นดาราเลยนะ!”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ผู้ชายคนนั้นเป็นดาราจริงๆ ชื่ออะไรฉีๆ นี่แหละ แต่เป็นดาราหางแถวไม่ดัง...แต่พวกนายเห็นท้องเขาไหม?”
“เหมือนจะท้องใช่ไหม? คิดไม่ถึงว่าผู้ชายท้องได้จริงๆ! แต่ตอนคลอดจะคลอดยังไงน่ะ?”
พอพูดออกมา ผู้ชายที่นั่งคุยกันอยู่ก็พากันสยิวกายอย่างหนาวเหน็บ รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
“พวกคุณอย่าพูดเหลวไหล ระวังท่านประธานเซวียได้ยินเข้า พวกคุณจะเดือดร้อนเปล่าๆ” พนักงานหญิงที่เดินตามหลังผู้จัดการประจำกะเมื่อครู่ตบโต๊ะ ส่งเสียงเตือนเบาๆ “นั่นคุณนายเซวีย เถ้าแก่เนี้ยของรีสอร์ตเรา”
ได้ยินดังนั้นคนอื่นๆ ก็ตกใจอ้าปากกว้างจนแทบจะยัดไข่ไก่ลงไปได้ทั้งฟอง
“แม่เอ๊ยจริงเหรอ?! คู่หมั้นของประธานเซวียไม่ใช่ผู้หญิงเหรอ? ทำไมอยู่ๆ เปลี่ยนเป็นผู้ชาย? แถมยังเป็นผู้ชายท้องแก่ใกล้คลอด”
พนักงานหญิงโต้กลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ท่านประธานเซวียเคยพูดเหรอว่าคู่หมั้นเขาต้องเป็นผู้หญิง?”
คนเหล่านั้นเป็นใบ้ไปทันที หันมามองตากันแล้วปิดปากรักษาความเงียบ
คนที่สามารถเข้ามาใช้บริการรีสอร์ตแห่งนี้ได้ก็ล้วนแล้วแต่มีสถานะมีอิทธิพลในสังคม ต่างคนต่างก็ได้ยินมาบ้างว่าเซวียเจวี๋ยไม่ชอบคู่หมั้นของเขามาแต่ไหนแต่ไร แต่มีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถถอนหมั้นได้ เลยกักบริเวณคู่หมั้นไว้ในบ้านตลอด
ไม่มีใครรู้ว่าคู่หมั้นของเซวียเจวี๋ยเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สวยหล่อหรือขี้ริ้ว
รู้แต่ว่าเซวียเจวี๋ยเกลียดคู่หมั้นมากจนยอมทำงานล่วงเวลาที่บริษัทติดต่อกันทีสิบวันครึ่งเดือน ก็ไม่ยอมกลับไปเยี่ยมคู่หมั้นสักแวบ
ตอนนี้เห็นทีคำเล่าลือเป็นเพียงคำเล่าลือ ดูผู้จัดการประจำกะทำหน้าตาประจบประแจงขนาดนั้น ดูคนประคองล้อมหน้าล้อมหลังเหมือนดาวล้อมเดือนขนาดนั้น มีหรือจะเหมือน ‘ผู้หญิงถูกทิ้ง’ เห็นชัดว่าเป็นไข่มุกถนอมไว้กลางฝ่ามือ!
ขณะที่คนที่อยู่ชั้นล่างพากันพูดคุยอย่างประหลาดใจ จู่ฉีก็เดินช้าๆ จนมาถึงห้องวีไอพีที่ผู้จัดการเตรียมไว้ให้
ในห้องวีไอพีมีทั้งภูเขาจำลองและน้ำไหล ตกแต่งอลังการแบบโบราณ กลิ่นกำยานไม้จันทน์หอมจางๆ ในอากาศ มองจากหน้าต่าง เห็นป่าเขียวชอุ่มทอดยาวจดท้องฟ้าสีคราม
ลมอ่อนโชยชายเย็นสบายพัดพากลิ่นชาเขียวสดใหม่มาปะทะใบหน้า หอมไปถึงข้างใน
จู่ฉีประคองท้องโตนั่งตำแหน่งตรงกลาง พ่อบ้านจางกับสาวใช้คนหนึ่งคอยปรนนิบัติซ้ายขวา สาวใช้คนอื่นกับบรรดาบอดี้การ์ดยืนมองอยู่ด้านหลังอย่างเป็นระเบียบ
พ่อบ้านจางคงกำชับมาล่วงหน้า อาหารที่พนักงานยกมาจึงมีแต่อาหารเจรสอ่อนเป็นส่วนใหญ่...เต้าหู้ไข่มุก ผักกาดขาวม้วนมรกต เกี๊ยวสี่ยินดี ฯลฯ ไม่เพียงพร้อมทั้งรูปกลิ่นรส พอเข้าปากก็ไม่ทำให้จู่ฉีรู้สึกเอียนเลย
ระหว่างรับประทาน เจ้าตัวน้อยในท้องก็เริ่มก่อเรื่อง เตะท้องจู่ฉีไม่ยอมหยุด
จู่ฉีซึ่งถูกกวนระหว่างรับประทานอาหารรู้สึกรำคาญ จึงวางตะเกียบกับถ้วยลงบนโต๊ะ และเอานิ้วชี้จิ้มท้องเบาๆ สองที
“อย่าซน!”
เจ้าตัวน้อยพลันนิ่งไป พ่อบ้านจางกับสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ก็ตกใจขวัญเสีย หน้าซีดในทันที
“คุณนาย ทำอย่างนี้ไม่ได้นะขอรับ! เด็กยังเล็กนัก อ่อนแอขนาดนั้น หากเกิดอะไรขึ้นจะแย่เอานะขอรับ” มีแต่เวลาแบบนี้ที่พ่อบ้านจางจะมีสีหน้าตื่นตกใจ
“...” จู่ฉีจนปัญญา แต่กิริยาจิ้มพุงก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นลูบเบาๆ
คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวน้อยได้ที อาศัยจังหวะเขาไม่ระวัง ถีบเขาเบาๆ หนึ่งที
จู่ฉีก้มมองท้องที่ใหญ่เหมือนลูกบาส แอบถอนหายใจ ตัดสินใจว่าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเด็ก เรื่องสำคัญตอนนี้คือจัดการกับอาหารรสเลิศตรงหน้า
กว่าเขาจะวางตะเกียบลงก็เป็นอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เขากินจนอิ่มจัด ประกอบกับในท้องยังมีเด็กอีกคน ตอนเดินออกมาจึงรู้สึกยากลำบาก
มีแต่ต้องสัมผัสด้วยตนเองถึงจะรู้ความเหนื่อยยากของว่าที่คุณแม่ หากไม่ใช่ว่าจู่ฉีบังเอิญทะลุมิติมาอยู่ในร่างบุรุษมีครรภ์ เขาก็ไม่มีทางรู้ว่าการให้กำเนิดชีวิตหนึ่งต้องมีขั้นตอนทุกข์ยากขนาดนี้
เขาใช้มือข้างหน้าเท้าเอว มืออีกข้างประคองท้องไว้โดยไม่รู้ตัว
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของเด็กคนนี้ครึ่งหนึ่ง หวังว่าวันหน้า ภายใต้การอบรมของเขา เด็กคนนี้จะไม่เดินไปบนทางน่าเวทนาอย่างโครงเรื่องเดิม ยิ่งไม่ต้องมีจุดจบอันน่าเศร้าที่ต้องไปตายต่างถิ่น
ขอเพียงห่างไกลจากเซวียเจวี๋ย ห่างไกลพระเอกนางเอกซึ่งยังไม่ปรากฏตัว บางทีชะตากรรมของเขากับลูกก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป...
“คุณนาย ถึงแล้วขอรับ” จู่ๆ เสียงของพ่อบ้านจางก็ดังขึ้นขัดความคิดของจู่ฉี
จู่ฉีได้สติ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือห้องโถงใหญ่กว้างขวางกับหน้าต่างกระจกยาวถึงพื้นสะอาดใส พอผลักประตูเล็กด้านข้างก็จะไปถึงสวนดอกไม้เล็กๆ ข้างนอกทันที
แสงสีเหลืองทองสาดเฉียงเข้ามาตกกระทบสระว่ายน้ำรูปวงรีกลางสวนดอกไม้ เป็นประกายระยิบระยับเลื่อมลาย
“มีสระว่ายน้ำด้วย!” จู่ฉีเบิกตากว้างอย่างดีใจ รีบสาวเท้าไปยังสวนดอกไม้อย่างรวดเร็ว
“คุณนาย! รอด้วยขอรับ!” พ่อบ้านจางกอดจู่ฉีไว้จากทางด้านหลังทันที ท่าทางตกอกตกใจเหมือนขวัญหาย “ช้าหน่อยขอรับ เดี๋ยวจะเจ็บท้องเปล่าๆ”
จู่ฉีถอดเสื้อกันลมที่คลุมตัวไว้ เผยให้เห็นเสื้อไหมพรมบางๆ สีขาวครีมกับท้องนูนเด่นเห็นชัด
ตอนนี้ยังเป็นช่วงปลายฤดูร้อน แค่เดินไปมาท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวก็ทำให้เหงื่อไหลท่วมตัว อย่าว่าแต่จู่ฉีสวมเสื้อผ้าปิดทั้งตัว เขาพับแขนเสื้ออย่างรื่นเริง ถือโอกาสปาดเหงื่อที่แขนไปพลาง
จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับพ่อบ้านจางว่า “ผมจะไปว่ายน้ำสักหน่อย”
“ไม่ได้!” พ่อบ้านจางปฏิเสธทันทีโดยไม่คิด
สีหน้าของพ่อบ้านจางเคร่งเครียดจนน่ากลัว แต่พอสบสายตาประหลาดใจของจู่ฉี เขาก็รู้สึกตัวว่าท่าทีของตนไม่เหมาะสม เพียงหนึ่งวินาทีก็กลับสู่ความสงบเยือกเย็น
“คุณนาย ตอนนี้คุณนายไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ พวกเราดูแลคุณนายตามคำสั่งของคุณท่าน ไม่กล้าให้เกิดความผิดพลาดอะไร คุณนายอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยขอรับ” พ่อบ้านจางเกลี้ยกล่อมสุดความสามารถ
จู่ฉีไม่เห็นด้วย เขายิ้มตาหยีมองพ่อบ้านจาง
จู่ฉีต้องการทำให้พวกเขาลำบากใจ ถ้าไม่ทำให้พวกเขาลำบากใจ เซวียเจวี๋ยจะปรากฏตัวหรือ?
‘จู่ฉี’ ตัวจริงทำตัวเป็นนกกระทาน้อยอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในบ้านตระกูลเซวียมาเกือบสองเดือน เลยถูกเซวียเจวี๋ยปล่อยทิ้งมาถึงวันนี้ แต่ละวันแต่ละคืนต้องรับความลำบากจากการอุ้มท้อง รอเท่าไรก็ไม่ได้เจอคนที่ใจอยากเจอ
“พ่อบ้านจาง ผมแค่บอกคุณว่าผมอยากว่ายน้ำเท่านั้น ไม่ได้ขอความเห็นจากคุณ” จู่ฉียิ้มจนตาหยีเห็นฟันขาวสะอาด
พ่อบ้านจางได้ยินก็ตะลึง สีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว
“คุณนาย…”
“เสียวหย่า" จู่ฉีไม่ปล่อยให้พ่อบ้านจางมีโอกาสพูด เขาหันมากวักมือเรียกเสียวหย่าที่เดินเข้ามาใกล้หลังเสร็จธุระ “กระเป๋าเดินทางของผมอยู่ไหน? ผมจะเอาของหน่อย”
เสียวหย่าสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่วนเวียนอยู่เหนือศีรษะพ่อบ้านจาง หล่อนไม่กล้าพูดมาก รีบวิ่งเหยาะๆ ไปข้างใน ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งของจู่ฉีออกมาจากหลังตู้เสื้อผ้า
ไม่นาน จู่ฉีก็เปลี่ยนมาใส่กางเกงว่ายน้ำลายดอกสีแสบทรวงภายใต้ความช่วยเหลือจากบอดี้การ์ดสองคน เขาเดินเท้าเปล่ามานอนบนเก้าอี้อาบแดดริมสระว่ายน้ำ ท่อนขาขาวตรงทั้งคู่พาดอยู่บนเก้าอี้เตี้ยข้างๆ
เสียวหย่ากับสาวใช้ทั้งหลายที่คอยเฝ้ามองจึงเห็นท้องที่นูนเด่นนั่นทันที และยังเห็นขายาวๆ ที่กระดิกไปมาอยู่บนเก้าอี้เตี้ย พวกเธอรู้สึกเก้อเขินจนต้องรีบทยอยหันหน้าไปทางอื่น
จู่ฉีทำเสมือนรอบกายไม่มีคน ไม่คลุมผ้าปิด ทั่วร่างมีแต่กางเกงว่ายน้ำลายดอกสีแสบตัวเดียว ยิ่งขับเน้นท้องกลมนูนให้ขาวขึ้นไปอีก
เขาปัดมือถือไปมาพลางเรียกเสียวหย่าและออกคำสั่ง “เมื่อครู่ผมเห็นเตาย่างในร้านผู้จัดการฉิน พวกคุณไปยืมมาหน่อย คืนนี้กินปิ้งย่างกันที่นี่”
เสียวหย่ากลืนน้ำลาย สีหน้าลำบากใจ “แต่พ่อบ้านจาง...”
“ที่นี่ผมใหญ่สุด หรือว่าพ่อบ้านจางใหญ่สุด?” จู่ฉีช้อนตาขึ้นมองเสียวหย่า
ดวงตาของเขาสวยมาก สีน้ำตาลเข้มเหมือนเต็มไปด้วยดวงดาว ริมฝีปากบางเฉียบยกขึ้นเล็กน้อย แม้ใบหน้าจะมีรอยยิ้มอบอุ่นอยู่ชัดๆ แต่กลับทำให้เสียวหย่าสั่นทั้งๆ ที่ไม่หนาว
เสียวหย่าไม่กล้ารั้งรอ รีบรับคำ เท้าเหมือนทาน้ำมันไว้ เพียงชั่วพริบตาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
พ่อบ้านจางที่อยู่ห่างไปไม่ไกลเห็นฉากนี้เขา หน้าก็เขียวคล้ำอีก
เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าจู่ฉีจะกล้าสวมกางเกงว่ายน้ำออกมา ไม่ต้องพูดถึงว่าอยู่ต่อหน้าผู้หญิงมากขนาดนี้ ซ้ำจู่ฉียังท้องได้หกเดือนกว่าแล้ว ทำไมกิริยาถึงไม่สำรวมเลย?!
ใส่เศษผ้าแบบนี้ไม่ต่างกับไม่ใส่อะไรเลยชัดๆ!
พ่อบ้านจางแค่นเสียงออกจากรูจมูก จากนั้นก็ไปหาที่ที่ไม่มีคนเพื่อโทรศัพท์