(* กดเพื่อเปลี่ยนสีพื้นหลัง)

เรื่อง : ทดลองอ่าน ยางลบสื่อรัก (ฉบับนิยาย)

Friday

บทที่ 1

บางคนแทบเอาศีรษะมุดเข้าไปในหนังสือเรียน บางคนกอดอกหลับตานิ่งๆ จนเดาไม่ออกว่ามั่นใจจริงๆ หรือปลงแล้วกันแน่ บางคนพยายามอวดแบบงงๆ ว่า “ฉันไม่ได้อ่านหนังสือเลยสักตัวเดียว”

บรรดานักเรียน ม.5 ห้อง 7 โรงเรียนมัธยมปลายฮิงาชิงาโอกะกำลังเตรียมตัวสำหรับการสอบย่อยวิชาคณิตศาสตร์

คาบแรกของวันนี้ ท่ามกลางแสงแดดอบอุ่นแห่งฤดูใบไม้ผลิ

อาโอกิ โซตะ กางหนังสือเรียนไว้ตรงหน้า มองเผินๆ เหมือนกำลังตั้งใจเรียน แต่สิ่งที่ถืออยู่ในมือคือหนังสือภูมิศาสตร์

ไม่ใช่คณิตศาสตร์วิชาที่กำลังจะสอบแต่อย่างใด

แน่นอนว่าคนอย่างอาโอกิไม่มีทางรู้ตัว

ทั้งๆ ที่ควรทุ่มเทให้มากกว่านี้ เพราะได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของห้องอยู่เป็นประจำ แต่อาโอกิกลับไม่แสดง ท่าทางใส่ใจในการสอบเลยสักนิด

เมื่อเหลือบมองไปด้านขวา และเห็นว่าฮาชิโมโตะซังกำลังท่องสูตรเวกเตอร์อย่างขะมักเขม้น อาโอกิถึงกับหน้าร้อนผ่าวกับความตั้งใจของเด็กสาวผู้ไร้เดียงสา

“เก็บของลงจากโต๊ะให้หมด ครูจะสอบเก็บคะแนนแล้ว”

อาจารย์หอบข้อสอบปึกใหญ่เข้ามาในห้องเรียนพร้อมเสียงออด อาโอกิเก็บหนังสือเรียนก่อนหยิบดินสอกดคู่ใจออกจากกล่องดินสอ อ้าว แล้วยางลบอยู่ไหน...ซวยแล้ว ลืมไว้ที่บ้าน...!

“อัคคุง ยืมยางลบหน่อย”

อาโอกิส่งเสียงเรียกพร้อมยกมือไหว้ไอดะที่นั่งติดกัน

ไอดะเพื่อนร่วมชั้นตั้งแต่สมัย ม.4...ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ชนแก้วโคล่ากอดคอกันร้องไห้ยันเช้าตอนไอดอลคนโปรดแต่งงาน ชวนกันวิ่งไปอาทิตย์อัสดงแบบไร้สาเหตุ...ทำกิจกรรมด้วยกันมากมายขนาดนี้ ถ้าจะเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทคงไม่ผิดกติกา

“เรื่องอะไร ฉันมีแค่อันเดียว”

แต่ไอดะกลับปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จนอยากถามออกไปว่า...เอ๊ะ? เราเป็นเพื่อนซี้กันไม่ใช่เหรอ?

“เย็นชาไปรึเปล่า...อย่าบอกนะว่าอยากเห็นฉันทรมานตอนสอบซ่อม!?”

“อาโอกิ คนอย่างนายมียางลบไปก็เท่านั้น...ว่าไหม?”

ไอดะมองมาด้วยสายตาเวทนา ราวกับต้องการบอกว่าคนอย่างนายไม่มีวันได้คะแนนดี อาโอกิกำดินสอกดในมือแน่นด้วยความเจ็บใจ เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาเถียง

“อาโอกิคุง”

ยางลบก้อนหนึ่งถูกวางลงบนขอบโต๊ะอย่างแผ่วเบา เมื่อหันไปทางขวาจึงเห็นว่าฮาชิโมโตะซังมองมาด้วยรอยยิ้ม

“ให้ยืมอันนี้ ฉันมีสองอัน”

“อ๊ะ! ขอบใจนะ...!”

ทำไมฮาชิโมโตะซังใจดีแแบบนี้...ไม่เรียกว่านางฟ้าแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

ผมบ๊อบสั้นดำขลับ แก้มกลมนุ่ม หางคิ้วตกลงเล็กน้อยให้ความรู้สึกอ่อนโยน รับกับดวงตาสดใสเป็นประกาย

อาโอกิเริ่มมองฮาชิโมโตะซังเป็นคนพิเศษ เปล่งประกายจากทุกอณูของร่างกาย ตั้งแต่สิบสี่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

วาเลนไทน์ วันแห่งการแข่งขันครั้งใหญ่ในรอบปี ที่ผู้ชายทุกคนแอบซุกซ่อนความหวังและความตื่นเต้นไว้ในใจ...

เศร้าจัง...หน้าตู้รองเท้าหลังเลิกเรียน อาโอกิยืนคิดในใจเพราะไม่ได้ช็อกโกแลตจากใครเลย

ความหวังอันริบหรี่ยังไม่หมดไป อาจมีสาวขี้อายสักคนไม่กล้าให้ช็อกโกแลตกับมือ แล้วแอบเอามาใส่ไว้ในตู้รองเท้า

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าหลังกลั้นหายใจกระชากฝาตู้ออก มีเพียงรองเท้าคู่เก่าสภาพยับเยิน ไม่ใช่ถุงน่ารักที่ผ่านการห่อด้วยความตั้งใจแต่อย่างใด

ความว่างเปล่าถาโถมลงบนบ่า ไม่ว่าจะปีที่แล้วหรือปีก่อน มีแต่สมาชิกในครอบครัวที่เอาช็อกโกแลตมาให้ ในโลกนี้คงไม่มีสาวคนไหนมาสนใจคนอย่างเรา...

‘อาโอกิคุง’

เสียงเรียกด้วยความอ่อนโยนดังขึ้นในเวลาเดียวกับที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

เมื่อหันหลังกลับไปจึงพบว่าฮาชิโมโตะซังเพื่อนร่วมชั้นกำลังเปิดฝากล่องในมือ

‘กินไหม ถ้าไม่รังเกียจ’

คัพเค้กชิ้นสุดท้ายในกล่องที่ถูกยื่นมาตรงหน้า ทำให้นึกถึงภาพฮาชิโมโตะซัง สมาชิกชมรมคหกรรมแจกคัพเค้กให้เพื่อนสนิทช่วงพักกลางวัน สงสัยคงเป็นของเหลือจากตอนนั้น

‘ชิ้นสุดท้าย ให้ฉันจริงๆ เหรอ!?’

อาโอกิตาเป็นประกาย ถึงจะรู้ดีว่าฮาชิโมโตะซังแค่มีน้ำใจ แต่อดดีใจไม่ได้ที่มีเพื่อนผู้หญิงมาใส่ใจความรู้สึกในวัน พิเศษอย่างวาเลนไทน์แบบนี้

‘บอกไว้ก่อนว่าไม่รับประกันรสชาติ…’

ฮาชิโมโตะซังยิ้มเกรงใจ

‘ตั้งใจมากเลยทำเยอะไปหน่อย ไม่รู้ว่าจะให้ใครดี ถ้ามีคนช่วยกินจะดีใจมาก’

‘ขอบใจนะ! ทานแล้วนะครับ!’

อาโอกิยกคัพเค้กขึ้นเหนือศีรษะราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าก่อนอ้าปากงับแบบเต็มคำ ความอ่อนโยนแบบไม่เสแสร้งของฮาชิโมโตะซังแทรกซึมไปทุกอณูของร่างกายพร้อมกับความหวานของช็อกโกแลตชิพ

‘อร่อยมากเลยฮาชิโมโตะซัง!’

ฮาชิโมโตะซังยิ้มโล่งอก เมื่ออาโอกิพูดด้วยริมฝีปากเปื้อนคราบช็อกโกแลต

‘ค่อยยังชั่ว’

รอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์บีบหัวใจอย่างแรงจนไม่มีวันลืมได้ลง

“โอเค ส่งต่อให้คนข้างหลังด้วย”

อาจารย์พูดพร้อมแจกข้อสอบให้นักเรียนที่นั่งแถวหน้าสุด

อาโอกิเอียงคอด้วยความสงสัย เมื่อเห็นรอยเปื้อนสีเขียวใต้ปลอกยางลบที่ตัวเองกำลังถือเอาไว้ในมืออย่างทะนุถนอม

คราบหมึก? อาโอกิขยับปลอกยางลบโดยไม่ได้คิดอะไร แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาทำให้รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าอย่างจัง สีเขียวบนยางลบไม่ใช่คราบสกปรก แต่เป็นตัวอักษรที่เขียนขึ้นด้วยความตั้งใจ...ระบุชื่อใครบางคน

...อิดะคุง

ประเด็นอยู่ตรงที่ทำไมต้องมีหัวใจดวงโตหลังคำว่า คุง...

อาโอกิจำได้ว่าสมัยเรียนประถม สาวๆ เคยฮิตการอธิษฐานให้ได้คบกับคนที่ชอบโดยเขียนชื่อคนๆ นั้นลงบนยางลบ ก้อนใหม่แล้วใช้ให้หมด...

ยางลบหลุดมือหล่นลงบนโต๊ะ เพราะไม่มีแรงถือไว้อีกต่อไป

ช็อกหนักมากจนพยายามสะกดจิตตัวเองว่า เราชื่ออิดะ แน่นอนว่าไม่มีทางได้ผล เราคืออาโอกิ ไม่ใช่อิดะ

ในห้องนี้มีอิดะแค่คนเดียว ผู้ชายผมสั้นนั่งอยู่โต๊ะข้างหน้า...

อิดะ โคสึเกะ...

ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เพิ่งอยู่ห้องเดียวกันตอน ม.5 เคยคุยกันบ้างในฐานะเพื่อนร่วมชั้น เรื่องเดียวที่รู้เกี่ยวกับ หมอนี่คือ เป็นสมาชิกชมรมวอลเลย์บอล

อาโอกิจ้องมองแผ่นหลังของอิดะ โคสึเกะด้วยแววตาแห่งความอิจฉาริษยาอย่างไม่ปิดบัง

...อืม ฮาชิโมโตะซังชอบหมอนี่เหรอ...

อาโอกิหลุบตามองยางลบ สมเพชตัวเองจังที่ยังเผลอหวั่นไหวกับฮาชิโมโตะซัง ที่มีความเป็นกุลสตรี ขี้อายจนต้องซ่อนความในใจไว้ใต้ปลอกยางลบ

ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ารักครั้งนี้ไม่มีทางสมหวังไม่ว่าจะทุ่มเทมากแค่ไหน...

ลาก่อนความรักครั้งแรกของเรา...

อาโอกิฟุบหน้าลงกับโต๊ะเพื่อซ่อนน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า

“โทษที ทำยางลบนายหล่น”

อิดะเอ่ยปากขอโทษเมื่อมุมข้อสอบกระแทกยางลบหล่นจากโต๊ะโดยบังเอิญ ก่อนก้มลงไปหยิบขึ้นมาโดยไม่ปล่อยให้อาโอกิตั้งตัว

ซวยแล้ว เห็นแน่!

อาโอกิลุ้นจนหัวใจแทบหยุดเต้น อิดะวางยางลบบนโต๊ะเบาๆ แล้วหันกลับไป โดยไม่แสดงทีท่าว่าเห็นชื่อตัวเองบนยางลบที่เพิ่งเก็บขึ้นมา

อาโอกิถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนส่งข้อสอบต่อให้เพื่อนข้างหลัง

“...เอ๊ะ?”

อิดะหันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด

“เอ๊ะ!?”

แววตาของอิดะทำให้อาโอกิตกใจจนตัวลีบ

“เอ่อ...อิดะคุง♡...อะไรของนาย...”

อิดะแสดงสีหน้าลำบากใจแบบไม่ปิดบัง น่ากลัวมาก...หมอนี่เข้าใจผิดว่ายางลบที่เขียนชื่อตัวเองเป็นของเรา

“เฮ้ย ไม่ใช่แบบนั้น ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย...”

“ไม่ใช่ของนายแล้วของใคร”

“เอ่อ...”

อาโอกิสั่งตัวเองไม่ให้เหลือบไปทางขวา การพูดออกไปว่ายางลบก้อนนี้เป็นของฮาชิโมโตะซัง ไม่ต่างจากการเปิดเผยความรู้สึกของเธอโดยพลการ

“...คือว่า...”

ตึกตัก ตึกตัก

อาโอกิพูดอะไรไม่ออก หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะขณะพยายามหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสม ตอนนี้คงทำได้แค่...กำยางลบในมือให้แน่นที่สุดเพื่อปกปิดคำว่า ‘อิดะคุง♡’

“อะ เอ่อ...”

โชคดีที่เสียงกระดาษข้อสอบเสียดสีกัน เสียงขยับเก้าอี้ เสียงกระแอมด้วยความตื่นเต้นของเพื่อนร่วมชั้น ช่วยกลบบทสนทนาระหว่างอาโอกิกับอิดะไม่ให้มีใครได้ยิน แม้แต่ฮาชิโมโตะซังที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน

“ที่จริง…ของฉันเอง...”

อาโอกิก้มหน้า เพราะหาข้อแก้ตัวที่ดีกว่านี้ไม่ได้

“...นาย...พูดจริงใช่ไหม...”

อิดะตาเบิกโพลง

ไม่น่าแปลกใจที่อิดะแสดงอาการแบบนี้ สำหรับหมอนี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือการถูกเพื่อนที่นั่งข้างหลังสารภาพรัก แบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นเพื่อนผู้ชาย ไม่ใช่เพื่อนผู้หญิง

“อิดะ! หันกลับมา จะเริ่มสอบแล้ว!”

“ขอโทษครับ”

อิดะกล่าวคำขอโทษเมื่อถูกอาจารย์เตือนก่อนหันกลับไป

“ให้เวลาสอบตั้งแต่ตอนนี้จนถึงออดดัง...ลงมือทำได้”

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนขยับดินสอกดในมือพร้อมกันเมื่อได้ยินคำสั่งของอาจารย์

...เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนได้...!

อาโอกิก้มมองคำว่า ‘อิดะคุง♡’ ก่อนขยี้ผมจนยุ่งเหยิง

 

◆◆◆

 

ดูเหมือนอาโอกิโต๊ะข้างหลังจะชอบเรา

อิดะกุมขมับกับความจริงที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว คนที่นั่งข้างหลังทำให้เสียสมาธิจนทำข้อสอบแทบไม่รู้เรื่อง

ตั้งแต่เมื่อไร...ทำไมถึงเป็นเรา?

อิดะกับอาโอกิไม่สนิทกัน อยู่คนละชมรม คบเพื่อนคนละกลุ่ม คุยกันบ้างในฐานะเพื่อนร่วมชั้น แต่ไม่เคยทำกิจกรรม ร่วมกัน ไม่น่ามีโอกาสให้ตกหลุมรัก ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ชายกันทั้งคู่ แล้วทำไม...

‘อิดะคุง♡’

อักษรสีเขียวตัวใหญ่ถ่ายทอดความรู้สึกของอาโอกิออกมาได้เป็นอย่างดี

คิดไม่ถึงจริงๆ เพราะที่ผ่านมาอาโอกิไม่เคยทำให้รู้สึกแบบนั้นเลยสักครั้งเดียว อิดะนึกย้อนไปถึงบทสนทนาไม่กี่ครั้ง กับอาโอกิ

ถ้าจำไม่ผิดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาโอกิดึงเนกไทของเราขึ้นเพื่อบอกว่ากระดุมเสื้อเชิ้ตหลุด แบบนี้เรียกว่าใส่ใจมากจนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ได้ไหม

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น...ตอนเราทำสมุดโน้ตที่อาจารย์สั่งให้รวบรวมไปส่งตกพื้น อาโอกิบอกว่า

“เอามานี่ ฉันช่วยถือ”

ก่อนรับสมุดครึ่งหนึ่งไปไว้ในมือ หรือจะทำไปเพราะอยากให้รู้สึกว่าตัวเองอ่อนโยน?

จริงสิ ยังมีวันที่ลืมร่มอีก!

วันฝนตกหนักช่วงหลังเลิกเรียน อาโอกิเดินถือร่มเข้ามาถามอิดะที่ติดฝนอยู่หน้าอาคารเรียนว่า

“เดินไปด้วยกันถึงกลางทางไหม?”

อิดะรู้สึกขอบคุณอาโอกิที่มีน้ำใจให้กลับด้วยกัน แน่นอนว่าร่มคันเดียวเล็กเกินไปสำหรับผู้ชายสองคน

“ขยับเข้ามาอีกสิ เดี๋ยวเป็นหวัดกันพอดี”

อาโอกิโอบไหล่อิดะให้ขยับเข้าไปอยู่ในร่มเพื่อไม่ให้เปียกฝน

จู่โจมขนาดนี้ไม่ธรรมดา...! อิดะยกมือปิดปากด้วยความตกใจ

อาโอกิแค่อยากช่วยเพื่อนร่วมชั้นที่กำลังลำบาก ไม่ได้ทำไปเพราะอยากให้ใครมาชอบ แต่คำว่า ‘อิดะคุง♡’กลายเป็นกระสุนเล่นงานอิดะให้สับสนจนมั่นใจในทางที่ผิด

...หมอนั่นหลงรักเราจริงๆ...

อิดะไม่ได้โง่ นอกจากเรียนเก่งแล้วยังคิดอะไรรอบคอบ แต่สำหรับความแตกฉานในด้านความรัก เรียกได้ว่าต่ำกว่าความคมชัดของโทรทัศน์ยุคโชวะเสียอีก

อิดะถอนใจยาวเพื่อสงบสติอารมณ์ จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้ถูกสารภาพรักต่อหน้า อาโอกิคงไม่ได้ตั้งใจให้เห็นคำว่า ‘อิดะคุง♡’ ด้วยซ้ำ การปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย

อิดะรวบรวมสมาธิจดจ่อกับข้อสอบอีกครั้ง หลังกำจัดความว้าวุ่นใจให้หมดไป เสียงออดหมดชั่วโมงดังขึ้นในเวลาเดียวกับที่เขียนคำตอบข้อสุดท้ายเสร็จพอดี

“โอเค วางดินสอ แล้วส่งข้อสอบขึ้นมาข้างหน้า”

คำสั่งของอาจารย์ทำให้อิดะพยายามรับข้อสอบแล้วส่งต่อให้เพื่อนข้างหน้าโดยไม่เหลือบไปมองด้านหลัง

อาจารย์เดินออกจากห้องเรียนหลังรวบรวมข้อสอบเสร็จ ร่างสูงสัมผัสได้ว่าฝ่ามือของใครบางคนกำลังกดลงบนหัวไหล่ ขณะเตรียมลุกจากโต๊ะเพื่อย้ายไปเรียนวิชาต่อไปที่ห้องชีววิทยา

“อิดะ”

เมื่อหันไปหาที่มาของน้ำเสียงจริงจัง จึงพบว่าอาโอกิกำลังชะโงกหน้าข้ามโต๊ะเรียนมาด้วยแววตาอัดอั้น

“...ว่าไง”

“มีเรื่องอยากคุยด้วย หลังเลิกเรียนมาที่ดาดฟ้าหน่อยสิ”

อาโอกิพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำก่อนเดินออกจากห้องเรียนไปอย่างรวดเร็ว

มีแค่สองเรื่องที่ต้องคุยบนดาดฟ้าหลังเลิกเรียน ถ้าไม่ใช่การต่อสู้กันของพวกหัวโจก ก็คงเป็น...

อิดะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

 

◆◆◆

 

เวลาหลังเลิกเรียนมาถึงแล้ว แต่อาโอกิยังคงนั่งอยู่ในห้องเรียนด้วยความกลัดกลุ้ม

‘...นาย...พูดจริงใช่ไหม...’

สีหน้าประหลาดใจตอนพูดประโยคนี้ออกมา...ทำให้รู้ว่าอิดะคิดไปเองว่าถูกแอบรัก

ทำยังไงดี ถ้าอิดะบอกคนอื่นว่า “อาโอกิหลงรักฉันเข้าแล้ว (หัวเราะ)” ทำยังไงดี ถ้าโดนเอาไปลือว่า “รู้ไหมว่าอาโอกิชอบอิดะ (หัวเราะ)” “เหมือนจะเขียนคำว่า ‘อิดะคุง♡’ ไว้บนยางลบด้วยนะ”       

นัดอิดะไปเจอที่ดาดฟ้า เพราะอยากให้รู้ว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด เหตุการณ์จะได้ไม่บานปลายไปกว่านี้ แต่คิดไม่ออกจริงๆ ว่าควรอธิบายยังไง

เมื่อเห็นว่าอิดะไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนร่วมชั้นร่างสูงคงกำลังไปที่ดาดฟ้า ทั้งๆ ที่ย้ำกับ ตัวเองว่าต้องรีบ แต่ร่างกายและจิตใจของอาโอกิกลับไม่ให้ความร่วมมือ

อืม ไม่อยากไปเลย เบี้ยวดีไหมนะ...

“อาโอกิคุง”

เสียงเรียกทำให้อาโอกิเงยหน้าขึ้นมาพบว่าฮาชิโมโตะซังกำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะ

“เอ่อ ยางลบที่ให้ยืม...”

เสียงเรียกแบบกล้าๆ กลัวๆ ปลุกอาโอกิให้ตื่นจากภวังค์ และนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้คืนยางลบ

“ขอโทษที ลืมไปเลย”

อาโอกิเปิดกล่องดินสอ หยิบยางลบคืนให้ฮาชิโมโตะซัง

“ขอบใจนะ ช่วยได้มากเลย!”

อาโอกิกล่าวคำขอบคุณพร้อมยกมือทั้งสองประกบกันบริเวณใบหน้า

“ไม่เป็นไร”

ฮาชิโมโตะซังตอบเบาๆ ก่อนเหลือบมองยางลบในมือ

“เห็นแล้ว...ใช่ไหม...?”

ฮาชิโมโตะซังมองหน้าอาโอกิแบบกล้าๆ กลัวๆ ขณะตั้งคำถามทำลายความเงียบชวนอึดอัด ถ้าเป็นหนุ่มหัวดี อาโอกิคงกลบเกลื่อนด้วยการคำถามกลับ

‘เธอพูดเรื่องอะไร?’

แต่การเป็นผู้ชายที่ห่างไกลจากความหัวดี ทำให้เผลออุทานออกไปด้วยสีหน้าและน้ำเสียงลนลาน

“เอ๊ะ!”

“…ว่าแล้วเชียว! ฉันนี่ไม่ไหวจริงๆ ดันให้ยืมอันที่เขียนชื่อเอาไว้”

ฮาชิโมโตะซังจับผมทัดหลังใบหูขณะหัวเราะฝืดๆ

“...ขอโทษนะ”

อาโอกิคอตก เรื่องแบบนี้เป็นความลับที่ไม่อยากให้แพร่งพรายไปถึงเพื่อนร่วมชั้น ถ้าไม่ลืมยางลบคงไม่ต้องทำให้คนที่ตัวเองแอบชอบรู้สึกแย่แบบนี้

“ไม่เป็นไร ฉันผิดเอง ไม่ต้องขอโทษ”

ฮาชิโมโตะซังยกมือทั้งสองข้างประสานกันบริเวณหน้าอก ท่าทางไร้เดียงสาสร้างความประทับใจให้อาโอกิเป็นอย่างมาก

ไม่อยากเชื่อเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้ยังแคร์ความรู้สึกของคนอื่น...คงต้องยอมรับว่าเรา...

“ชอบ...”

“เอ๊ะ?”

ฮาชิโมโตะซังเอียงคอด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียงในใจที่หลุดออกจากปากอาโอกิ

“อ๊ะ! เอ่อ...กำลังคิดว่าทำไมไม่สารภาพไปเลยว่าชอบ...”

ข้อแก้ตัวที่คิดขึ้นสดๆ ทำให้ฮาชิโมโตะซังส่ายใบหน้าที่แดงก่ำไปมา

“คนอย่างฉันไม่มีทางทำได้ สารภาพรักไปคงไม่ได้อะไรขึ้นมา”

“ไม่จริงหรอก เชื่อฉันสิ!”

ฮาชิโมโตะซังหัวเราะเบาๆ เมื่ออาโอกิลุกพรวดจากโต๊ะพร้อมปฏิเสธเป็นพัลวัน

“อาโอกิคุงใจดีจัง”

...ไม่ใช่หรอก คนที่ใจดีคือเธอต่างหาก ถ้าอิดะมองข้ามเสน่ห์ของเธอ ฉันจะเอาน้ำประปาล้างตามัวๆ ของหมอนั่น แล้วถูสบู่ให้เอง

“ตอนนี้แค่ได้แอบมองก็มีความสุขแล้ว เพราะเป็นรักครั้งแรกเลยอยากให้ความสำคัญ”

ฮาชิโมโตะซังถือยางลบแนบอก

“...อย่างนั้นเหรอ”

อาโอกิเข้าใจดีว่าความรู้สึกนั้นไม่ใช่ความหวังยิ่งใหญ่ที่ต้องได้คบกัน หรืออยากให้เขามองเราคนเดียว

แค่ได้เห็นอีกฝ่ายมีความสุขก็ดีใจ แค่เขายิ้มให้ก็ตัวลอยเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ แค่ได้รักก็มีความสุข

“...ฮาชิโมโตะซัง ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด”

อาโอกิกำมือแน่น

“ไม่ว่ามหาเศรษฐีคนไหนเอาเงินร้อยล้านมากองตรงหน้า หรือโดนยากุซ่าจับกดน้ำก็จะไม่ยอมบอกเด็ดขาด!”

ฮาชิโมโตะซังกระพริบตาถี่มองหน้าอาโอกิที่ให้สัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง

“คิดว่าทั้งมหาเศรษฐี ทั้งองค์กรร้ายคงไม่อยากรู้เรื่องนี้...แต่ขอบใจนะ ตอนแรกแอบกลัวเหมือนกันว่าจะโดนหัวเราะ เยาะรึเปล่าที่ใช้วิธีอธิษฐานแบบเด็กๆ ฉันรู้ดีว่ากำลังทำตัวเหมือนเด็กอนุบาล”

“ใครจะหัวเราะเยาะ!”

อาโอกิพูดหนักแน่นเมื่อฮาชิโมโตะซังแสดงอาการเขินอาย

“ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอรู้สึกแบบนนั้น”

“...อาโอกิคุงมีคนที่ชอบเหมือนกันใช่ไหม?”

“อะ...อื้ม...”

อาโอกิทำสายตาล่อกแล่ก แต่ฮาชิโมโตะซังยังคงพูดต่อไปด้วยใบหน้าสดใส

“อาโอกิคุงเป็นคนดี ต้องไปได้สวยแน่ๆ เป็นกำลังใจให้นะ”

“ขอบใจนะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้เหมือนกัน...”

ความใจดีแบบไม่เสแสร้งกลับสร้างความปวดใจให้อาโอกิ ไม่มีอะไรน่าเศร้าไปกว่าการถูกคนที่ชอบให้กำลังใจเรื่องความรัก...

“โอเค ถ้าอย่างนั้นเก็บไว้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ”

นิ้วก้อยบอบบางถูกยื่นมาตรงหน้าอาโอกิ

ความลับระหว่างเราสองคน...ไม่ค่อยชอบรายละเอียดสักเท่าไร แต่ห้ามใจให้ปฏิเสธความหอมหวานของสิ่งที่ ได้ยินไม่ได้

“โอเค! ตกลงตามนั้น!”

“แรงเยอะมาก!”

ฮาชิโมโตะซังเผยรอยยิ้มไร้เดียงสา เมื่ออาโอกิเขย่ามือที่เกี่ยวก้อยสัญญาแบบไม่ยั้ง

...ฮาชิโมโตะซัง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะปกป้องความสุขของเธอเอง!

อาโอกิสาบานในใจต่อหน้ารอยยิ้มของฮาชิโมโตะซัง

 

อาโอกิเดินขึ้นบันไดไปยังดาดฟ้าหลังแยกตัวจากฮาชิโมโตะซัง เมื่อเปิดประตูออกไปจึงเห็นว่าอิดะกำลังยืนเกาะรั้วเหม่อมองก้อนเมฆบนท้องฟ้ายามเย็น

อาโอกิหายใจเข้าออกช้าๆ บอกตัวเองให้ทำใจกล้าขณะก้าวออกไป

“ขอโทษที รอนานไหม”

อาโอกิเอ่ยปากขอโทษเมื่อเห็นอิดะสะดุ้งและหันหลังกลับมามอง

“เอ่อ...ไม่เป็นไร...”

อาโอกิสาวเท้าเข้าไปหาอิดะที่พยายามหลบตาด้วยความลำบากใจ ร่างสูงตัวเกร็งเมื่ออาโอกิยืนเผชิญหน้าในระยะ ใกล้กว่าหนึ่งเมตร

“อิดะ ขอร้องละ!”

“ขอโทษที่ตอบรับความรู้สึกของนาย...”

อาโอกิก้มศีรษะลงต่ำโดยไม่เปิดโอกาสให้อิดะพูดจบ

“อย่าบอกเรื่องยางลบกับใครนะ!”

“...เอ๊ะ?”

อิดะอุทานด้วยความตกใจ

อาโอกิล้มเลิกความคิดที่จะแก้ตัว ความรู้สึกของฮาชิโมโตะซังเป็นของเธอคนเดียว เธอควรตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะบอกความในใจกับอิดะหรือไม่ อิดะไม่ควรรู้เรื่องนี้จากปากอาโอกิไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม

ถ้าช่วยปกป้องความรู้สึกที่ฮาชิโมโตะซังต้องการเก็บเป็นความลับเอาไว้ได้ จะถูกอิดะเข้าใจผิดคิดว่าชอบก็ไม่เป็นไร

แต่ยังไงก็ไม่อยากให้เรื่องนี้หลุดไปถึงหูคนรอบข้าง

อาโอกิแค่ไม่อยากให้ฮาชิโมโตะซังรู้สึกไม่ดี ไม่ได้กลัวโดนล้อเลียนเรื่องเขียนคำว่า ‘อิดะคุง♡’ บนยางลบแต่อย่างใด

ทุกคนอาจไม่รู้ว่ายางลบก้อนนั้นเป็นของใคร แต่ฮาชิโมโตะซังต้องรู้สึกว่าโดนหัวเราะเยาะทุกครั้งเวลาได้ยินเรื่องยางลบ ที่มีชื่ออิดะอย่างแน่นอน

คงไม่มีใครทนได้ ถ้าความรู้สึกที่ซ่อนไว้ใต้ปลอกยางลบถูกนำมาเปิดเผยและเหยียบย่ำจนไม่มีชิ้นดี

“ขอร้องละ!”

อิดะเกาศีรษะเมื่ออาโอกิก้มตัวลงต่ำกว่าเดิม

“ฉันไม่บอกใครอยู่แล้ว บอกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”

“จะเอาไปล้อ หรือเม้าท์ต่อก็ได้ไม่ใช่รึไง ว่าฉันชอบนาย...อะไรแบบนี้”

อิดะเอียงคอด้วยความสงสัยเมื่อเห็นอาโอกิบ่นพึมพำในลำคอ

“ทำไมต้องทำแบบนั้น? ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหน”

สีหน้าประหลาดใจทำให้อาโอกิเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อสัมผัสได้ว่าอิดะไม่คิดจะเอาเรื่องที่อาโอกิแอบชอบ รวมทั้ง เรื่องที่ตัวเองปฏิเสธไปเล่าต่อด้วยความคึกคะนองแต่อย่างใด

...หมอนี่ เป็นคนดีกว่าที่คิด นิสัยแบบนี้ของอิดะคงทำให้ฮาชิโมโตะซัง...

“หลงรักเข้าอย่างจัง...”

ฮาชิโมโตะซังเป็นเด็กสาวแสนดีที่ไม่เคยมองข้ามข้อดีของคนอื่นจริงๆ...

ใบหน้าแดงซ่านของอาโอกิขณะนึกถึงรอยยิ้มของฮาชิโมโตะซังทำให้อิดะถอยกรูด

“อาโอกิ ฉันไม่รู้ตัวมาก่อน...ขอโทษนะ ถ้าที่ผ่านมาเคยให้ความหวัง...”

อาโอกิลนลานเช่นกันเมื่อรู้ว่าการกระทำของตนสร้างความเข้าใจผิดมากกว่าเดิม

“ฮะ เฮ้ย เมื่อกี้ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”

“แล้วหมายความแบบไหน”

อยากพูด อยากพูดออกไปดังๆ ว่าคนที่ฉันหลงรักคือ ฮาชิโมโตะซังไม่ใช่นาย แต่ถ้าพูดออกไปจะกลายเป็นการหักหลังฮาชิโมโตะซัง อาโอกิกัดริมฝีปากแน่น แต่การทำแบบนั้นกลับทำให้อิดะเข้าใจผิดมากกว่าเดิม

“ไม่ต้องจิตตกขนาดนั้น ฉันไม่ได้บอกว่ารังเกียจนายสักหน่อย”

อาโอกิหัวเสียกับคำปลอบใจที่ไม่ตรงประเด็น ฉันไม่ได้จิตตกเพราะโดนนายหักอกสักหน่อย!

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ขอร้องละช่วยหุบปากที!”

ถ้าฝืนคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้ต่อไป ความรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเองต้องถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี อาโอกิกระแอมเบาๆ ก่อนพูดต่อไป

“เอาเป็นว่านายแค่ลืมเรื่องยางลบก็พอ ไปละ”

“เดี๋ยวสิ”

อิดะคว้าข้อมืออาโอกิที่หันหลังเตรียมเดินจากไป

“นายโอเคจริงๆ ใช่ไหม?”

คำถามที่ได้ยินทำให้ความหอมหวานของคัพเค้กกลับมาอบอวลในช่องปากอีกครั้ง แต่ตอนนี้รสชาติแห่งความสุขกลับกลายเป็นความปวดใจจนทำให้ต้องสะบัดมืออิดะอย่างแรง

“ช่างมันเถอะ แค่ลบออกจากความทรงจำของนาย ฉันจะทำแบบนั้นเหมือนกัน แล้วทุกอย่าง...จะได้เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น...”

คัพเค้กชิ้นสุดท้ายที่ได้จากฮาชิโมโตะซังในวันวาเลนไทน์ปีที่แล้ว...คงเป็นของที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้อิดะ

โง่เง่าสิ้นดี ดีใจกับของที่ทำไว้ให้ผู้ชายคนอื่น ตกหลุมรักรอยยิ้มที่มีไว้ให้ผู้ชายคนอื่น...

ความรู้สึกของเราไม่มีค่ามาตั้งแต่แรก ความรักที่ซ่อนไว้ค่อยๆ พังทลายราวกับภูเขาทรายแห้งผาก

“ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้ไม่ใช่เหรอ”

“หา?”

เมื่อหันหลังกลับไปก็เห็นว่าอิดะกำลังยกมือลูบบริเวณท้ายทอยด้วยท่าทางลำบากใจ

“ทำไมต้องทำให้ความรู้สึกของนายกลายเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกทิ้งๆ ขว้างๆ สักหน่อย”

ความรู้สึกเจ็บจี๊ดแล่นเข้าสู่หัวใจ...บ้าที่สุด ทำไมต้องกินใจกับคำพูดของคนที่นอกจากไม่เข้าใจอะไรเลย...แล้วยังเป็นศัตรูหัวใจแบบนี้ด้วย

ทั้งๆ ที่พยายามอดทน แต่กลับทำไม่สำเร็จ

“อิดะ ฉัน...”

หยาดน้ำใสไหลออกมาพร้อมกับความรู้สึกในใจที่ไม่มีทางสมหวัง ฮาชิโมโตะซัง...ฉัน...

“คิดจริงจังมาตลอดอย่างกับคนบ้า...”

จุดจบของความรักที่ไม่ต่างอะไรกับเรื่องขบขัน แต่สำหรับอาโอกิมันคือเรื่องราวที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้

“แต่นายคงไม่เข้าใจ...”

อาโอกิพูดเสียงขึ้นจมูก เมื่อฝ่ามือใหญ่ของอิดะยื่นมาตรงหน้า

“อะ อะไรของนาย?”

อาโอกิทำคอย่น

“...อะ เอ่อ ไม่มีอะไร”

มือของอิดะชะงัก ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะดังขึ้นในลำคอ

ทำไมต้องร้องไห้ต่อหน้าอิดะ...อาโอกิขยี้ตาอย่างแรงด้วยความรู้สึกอับอายและเจ็บใจ

“…อย่าร้องได้ไหม เจอแบบนี้ไม่กล้าปฏิเสธกันพอดี”

อิดะพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ไม่ได้อยากร้องสักหน่อย”

อาโอกิปาดน้ำตาแบบลวกๆ

“ช่างมันเถอะ รีบๆ ปฏิเสธได้แล้ว จะได้เลิกคุยเรื่องนี้สักที”

“...เอ่อ”

อิดะก้มหน้านิ่ง...

อาโอกิยืนรอให้อิดะจบสถานการณ์ไร้สาระนี้ โดยมีก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่เริ่มกระจายตัวเป็นพยาน

“...เริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อนได้ไหม”

“เอ๊ะ?”

คำพูดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินทำให้อาโอกิเบิกตาโพลง แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคือคนที่พูดประโยคนี้ออกมานั่นเอง

 

ว่ากันว่ารักครั้งแรกไม่มีทางสมหวัง แล้วอะไรที่สมหวัง...

เนกไทของเด็กหนุ่มทั้งสองพลิ้วไหวไปตามสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่พัดมาจากอีกฟากฝั่งของท้องฟ้า

หนังสือแนะนำ All

Special Deal